“เมืองไทยประกันชีวิต “ร่วมมหกรรมการลงทุนแห่งปี SET in the City 2018 ชูผลิตภัณฑ์-บริการเด่น ตอบโจทย์ครบถ้วนทุกความต้องการ
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายใต้นโยบาย ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customers @ the Heart) ซึ่งบริษัทฯ ใช้เป็นกลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตให้ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้านั้น ล่าสุดบริษัทฯ เข้าร่วมงานมหกรรมการลงทุนแห่งปี “SET in the City 2018” ในระหว่างวันที่ 15-18 พ.ย. 2561 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน
บริษัทฯ ได้คัดสรรผลิตภัณฑ์มานำเสนออย่างครบถ้วนครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า โดยลูกค้าที่เน้นด้านความคุ้มครองชีวิตและสร้างหลักประกันให้ครอบครัว บริษัทฯ ได้จัดเตรียม เมืองไทย สมาร์ท โพรเทคชั่น 99/20 มีจุดเด่นที่ชำระเบี้ยปร ะกันภัยสบายๆ 20 ปี ได้รับความคุ้มครองชีวิตระยะยาวจนครบอายุ 99 ปี และ “แบบประกันภัย เมืองไทย รับทรัพย์ตลอดชีพ 90/7” มีจุดเด่นอยู่ที่ชำระเบี้ยประกันภัยระยะสั้นเพียง 7 ปี แต่ได้รับเงินจ่ายคืนตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 2 ต่อเนื่องตลอดอายุสัญญา โดยเบี้ยประกันภัยที่ชำระของ 2 ผลิตภัณฑ์นี้ ยังสามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้(1)
ด้านผู้ที่ต้องการออมและวางแผนลดหย่อนภาษี ผลิตภัณฑ์ที่นำมาเสนอ ได้แก่ โครงการเมืองไทย ซุปเปอร์ เซฟเวอร์ 25/16 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจ่ายเบี้ยสบายๆ ยาวถึง 16 ปี แต่ได้รับเงินจ่ายคืนทุกปี และสามารถนำเบี้ยประกันภัยที่ชำระไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้(1) แต่หากตกเป็นบุคคลทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวรก็จะได้รับการยกเว้นชำระเบี้ยประกันภัย
ส่วนลูกค้าที่เน้นเรื่องการบริหารการเงินหลังเกษียณ นำเสนอ “โครงการเมืองไทย รีเทิร์น รีไทร์” เหมาะสำหรับคนที่กำลังวางแผนเตรียมเกษียณ โดยจ่ายเบี้ยสั้นเพียง 5 ปี และรับเงินบำนาญไว้ใช้หลังเกษียณแบบสบายๆ ตั้งแต่อายุ 60 ปี ไปจนถึงอายุครบ 85 ปี สูงถึงปีละ 20%(2) รวมสูงสุด 520%(2) พร้อมเบี้ยประกันภัยที่ชำระ ยังสามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 300,000 บาท(3)
ด้านลูกค้าที่เน้นด้านการลงทุน เมืองไทยประกันชีวิตเพิ่มทางเลือกเพื่อตอบโจทย์การวางแผนทางการเงินพร้อมโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุน ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพ
1. โครงการ “mDesign” และ “mOne” ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุนที่ให้ความคุ้มครองชีวิต พร้อมกับเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวม โดยลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนความคุ้มครองและสัดส่วนการลงทุนได้ตามต้องการ
2. “เมืองไทย ยูแอล 1 สินทวีคูณ ในโครงการ Beyond Plus” ประกันชีวิตแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์ ที่ชำระเบี้ยครั้งเดียวแต่ได้ความคุ้มค่าที่มากกว่า ทั้งคุ้มครองเงินต้น คุ้มลดหย่อนภาษี ที่สำคัญคือคุ้มครองชีวิตสูงถึง 130% ของเบี้ยประกันภัยชำระครั้งเดียว และยังเปิดโอกาสให้ท่านได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นตามผลการลงทุนด้วย
นอกจากนี้ ยังมีบริการออกแบบการลงทุน ภายใต้โครงการ 5 ขั้นมั่นใจลงทุน ผ่าน 2 ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน และผลิตภัณฑ์กองทุนรวมอีกด้วย
นายสาระ กล่าวอีกว่า ภายในงานบริษัทฯ ได้จัดเตรียมกิจกรรมแห่งความสุขและรอยยิ้มของ “เมืองไทย Smile Club” ไว้ต้อนรับสมาชิกเมืองไทย Smile Club โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลหรือคะแนนสะสม Smile Point และนำคะแนนสะสม Smile Point แลกรับของที่ระลึก อีกทั้งลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตสามารถกรอกใบสมัครสมาชิกเมืองไทย Smile Club หรือ ปรับปรุงข้อมูลส่วนตัวสมาชิกเมืองไทย Smile Club เพื่อร่วมกิจกรรมและแลกรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้จัดเตรียมโปรโมชั่นอื่นๆ ภายในงานไว้อย่างมากมาย