ตลท.ดับร้อนหุ้น JAS ปิดพุ่ง 25% จับขัง Cash Balance เริ่ม 21 ธ.ค.นี้

HoonSmart.com>>ตลาดหลักทรัพย์ สั่งหุ้น JAS เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance เริ่มใช้ 21 ธ.ค.66 ถึง 10 ม.ค.67 ด้านหุ้น JAS ปิดพุ่ง 24.69% หวังจ่ายเงินปันผลอีกก่อนหลังขาย 3BB เหลือเงินกว่าหมื่นล้านบาท

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่าหลักทรัพย์บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance มีผลตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.66 ถึง 10 ม.ค.67

หุ้น JAS ปิดพุ่ง 24.69% ที่ 2.02 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,231.33 ล้านบาท

ด้านบริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ชี้แจงตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ สอบถามถึงพัฒนาการใดๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาหลักทรัพย์ของ JAS เนื่องจากพบว่าสภาพการซื้อขายหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากวันก่อนหน้าเพื่อให้ผู้ถือหุ้นและหรือผู้ลงทุนได้มีข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจลงทุนอย่างครบถ้วนว่า บริษัทฯ ยังไม่มีพัฒนาการที่สำคัญใดๆ ที่ยังไม่ได้เปิดเผย หรือสารสนเทศที่มีนัยสำคัญที่บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาและอาจเปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯในระยะเวลาอันใกล้ เช่น การเพิ่มทุน การร่วมทุน การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สินหรือข้อพิพาทที่สำคัญ นอกจากนี้บริษัทไม่ทราบถึงสาเหตุอื่นใดที่อาจส่งผลกระทบต่อการซื้อขาย

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ราคาหุ้น JAS ปรับตัวขึ้นในวันนี้ ด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาอย่างคึกคัก คาดว่าจะเป็นเพราะนักลงทุนมีความคาดหวังที่จะได้รับเงินปันผลอีกก้อนหลังจากที่ได้จ่ายเงินปันผลพิเศษไป 0.60 บาท/หุ้น และขึ้นเครื่องหมาย XD ไปแล้วเมื่อ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยนักลงทุนคาดหวังบริษัทจะจ่ายเงินปันผลกว่า 1 บาท/หุ้น หลังจากที่ได้ขาย 3BB ไปแล้ว ซึ่งหลังจ่ายเงินปันผลพิเศษไป 0.60 บาท บริษัทก็ยังเหลือเงินอีกกว่าหมื่นล้าน ที่จะต้องรอดูว่าบริษัทจะนำไปใช้ทำอะไรต่อไป หรือจะนำมาจ่ายปันผลอีก

ทั้งนี้ ในวันที่บริษัทขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายเงินปันผลพิเศษให้ผู้ถือหุ้น ราคาหุ้น JAS ได้ไหลลงมา 1.50 บาท จากเดิมอยู่แถว 2.20 บาท ซึ่งตอนนี้ตลาดก็อยากเห็นผ่าน 2 บาทไปได้ไหม เพราะเป็นแนวสำคัญเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน พร้อมให้แนวรับ 1.84 บาท แนวต้าน 2 บาท

อย่างไรก็ดี ไม่แนะนำให้ลงทุนหุ้น JAS เพราะหลังขายธุรกิจหลัก 3BB ออกไปแล้วก็ยังไม่รู้ว่าบริษัทจะทำอะไรต่อไป