HoonSmart.com>> “บล.ทิสโก้” ประเมินการขาดทุนจากการขายรถยึดคืนยังอยู่ในระดับสูง ราคารถยนต์มือสองร่วงต่อเนื่อง ความนิยมรถยนต์ EV เพิ่มขึ้น งวดไตรมาส 4/66 ช่วง high season เร่งระบายขายรถยนต์ยึดคืนก่อนแจ้งงบ คาดสร้างแรงกดดันผลการดำเนินงานกลุ่มแบงก์ที่มีความเสี่ยงสูงในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ คงคำแนะนำ “ซื้อ” BBL-SCB
บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ เปิดเผยว่า จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ราคารถยนต์มือสองซึ่งมีแนวโน้มลดลงตั้งแต่ต้นปีนี้ลดลงอีก 13% qoq และ 17% yoy ในเดือน ต.ค. โดยส่วนราคารถยนต์เพื่อการพาณิชย์ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว (-16% qoq และ- 21% yoy) มากกว่าราคารถยนต์นั่งส่วนบุคคล (-11%qoq/18%yoy)
“เราสังเกตว่าจุดอ่อนของราคารถยนต์มือสองมาจากปัจจัยอุปสงค์และอุปทานรวมกัน ในอดีตโดยเฉพาะในรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีแนวโน้มว่าจะเป็นไปได้ว่ามาจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ยอดขายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ใหม่ลดลง 39%yoy ในเดือน ต.ค. และมีแนวโน้มลดลงตั้งแต่ต้นปีนี ้เช่นกัน ส่วนนี้มีความสัมพันธ์อย่างมากกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในเขตต่างจังหวัด/ภาคเกษตรกรรม นอกจากนี้ เรายังแจ้งว่าความต้องการรถยนต์นั่งส่วนบุคคลลดลง แต่ไม่มากเท่ากับรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ในส่วนของผลกระทบของอุปทานต่อราคา แม้ว่าข้อมูลดังกล่าวจะมีจำกัด แต่ความคิดเห็นล่าสุดจากธนาคารที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อเช่าซื้อชี้ให้เห็นว่า NPL formation เพิ่มขึ้นส่งผลให้มีการยึดรถเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากราคาที่ลดลงทำให้สถานการณ์นี้อาจดำเนินต่อไปอีกระยะ”บล.ทิสโก้ ระบุ
นอกจากนี้เมื่อพิจารณานอกเหนือจากปัจจัยวงจรธุรกิจแล้ว มองว่าความนิยมที่เพิ่มขึ้นของรถยนต์ EV ในประเทศไทยทำให้เกิดความเสี่ยงด้านลบเพิ่มเติมต่อราคารถยนต์ รถยนต์ EV นั้นขายถูกกว่า (ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณนโยบายของรัฐบาล) แต่กลับอ่อนค่าเร็วกว่า (เทียบกับรถยนต์ ICE) การนำรถยนต์ EV มาใช้มากขึ ้นมีแนวโน้มที่จะกดดันราคารถยนต์ ICE มือสองด้วย เทรนด์เหล่านี้ถูกจัดแสดงในงาน Motor Expo ปีนี้ งานแสดงรถยนต์ยอดนิยมของเมืองไทย แม้ว่างานดังกล่าวจะบันทึกการเติบโตอย่างมากของยอดจองทั้งหมด โดยเพิ่มขึ้น 1.76 หมื่นคัน เป็น 5.4 หมื่นคัน การเพิ่มขึ้นดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากรถยนต์ EV (+15,000 คัน) ในขณะที่รถยนต์ ICE มีส่วนสนับสนุนเพียง +2,500 คัน
บล.ทิสโก้ มองในกรณีนี้ผลขาดทุนจากการขายรถยนต์ยึดจะยังคงสูงในไตรมาส 4 ปี 2566 นอกจากนี้ เรายังสังเกตด้วยว่าในไตรมาส 4 นี้ มีแนวโน้มเป็นช่วง high season ของการขายรถยนต์ยึดคืน เนื่องจากบริษัทพยายามจะทำความสะอาดงบการเงินเพื่อเตรียมรายงานผลประกอบการ ซึ่งสิ่งนี้น่าจะสร้างแรงกดดันต่อผลการดำเนินงานทางการเงินของธนาคารที่มีความเสี่ยงสูงในการให้สินเชื่อเช่าซื้อ ซึ่งรวมถึง KKP ด้วย
ทั้งนี้ บล.ทิสโก้ คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ BBL โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 195.00 บาท และ “ซื้อ” สำหรับ SCB โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 122.00 บาท