Merkle Capital คาดคริปโทม.ค.โอกาสเติบโตสูง รับ”ทรัมป์”เข้าทำเนียบ

HoonSmart.com>> Merkle Capital ประเมินภาพรวมตลาดคริปโทฯ เดือนม.ค.นี้ โอกาสเติบโตสูง หลัง Trump เข้าทำเนียบขาว เดินหน้ามาตรการตามที่หาเสียง ตั้งสหรัฐฯเป็นศูนย์กลางของคริปโทฯ ผลักดัน Bitcoin เป็น Strategic reserve ด้านเฟดประชุม 29 ม.ค.นี้ ด้านราคาคริปโทช่วง 2 สัปดาห์แรกของปีราคาร่วง “Bitcoin” ปรับตัวลงกว่า 15%

ปี 2024 ที่ผ่านมา สินทรัพย์ดิจิทัลโดยเฉพาะ Bitcoin ถือเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด ปรับตัวขึ้นจาก 40,000 ดอลลาร์ จนถึง 107,000 ดอลลาร์ คิดเป็น 160% ซึ่งการปรับตัวขึ้นครั้งนี้ เกิดจากปัจจัยสนับสนุนจำนวนมาก ทั้งปัจจัยจากภาพรวมเศรษฐกิจมหภาค (Macroeconomics) เช่น การลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปีของสหรัฐฯ, การชนะการเลือกตั้งของ Donald Trump รวมถึงปัจจัยเฉพาะที่เกิดขึ้นกับภาพรวมคริปโทฯ เช่น การอนุมัติ Bitcoin spot ETFs, การอนุมัติ Bitcoin option ETFs, Bitcoin halving, การอนุมัติ Ethereum spot ETFs เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม 2 สัปดาห์แรกของปี 2025 ภาพรวมตลาดคริปโทฯ โดยเฉพาะ Bitcoin มีการปรับตัวลงกว่า 15%

นายวรเมธ จันทร์เสน ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด เปิดเผยว่า Merkle Capital มองว่าภาพรวมเดือนมกราคม Bitcoin และตลาดคริปโทฯ มีโอกาสเติบโตได้สูงด้วยเหตุผลดังนี้

 
1. Donald Trump ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

หลังจากผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ถูกตัดสินในปี 2024 สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นรับชัยชนะของ Donald Trump อย่างมีนัยสำคัญ แม้ในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือน ภาพรวมตลาดคริปโทฯ จะปรับตัวลง แต่ในวันที่ 20 มกราคมนี้ Donald Trump จะดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการและสามารถดำเนินมาตรการต่าง ๆ ที่เคยหาเสียงไว้ได้ เช่น การจะจัดตั้งสหรัฐฯ ให้เป็นศูนย์กลางของคริปโทฯ, การจะผลักดัน Bitcoin ให้เป็น Strategic reserve ของสหรัฐฯ, การเข้าร่วมและปราศรัยงาน Bitcoin conference 2024 รวมถึงการจัดตั้ง Elon Musk เป็นประธาน Department of Government Efficiency ที่มีอักษรย่อเป็นหนึ่งในสกุลเงินคริปโทฯ (DOGE) เป็นผลให้ภาพรวมตลาดคริปโทฯ ในเดือนมกราคมและปี 2025 มีโอกาสเติบโตสูงอย่างมีนัยสำคัญทั้งปัจจัยพื้นฐานและราคา

 
2. การคงอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐฯ

วันที่ 29 มกราคม 2025 จะมีการประกาศอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐ (FED) โดยนักลงทุนส่วนมากเชื่อมั่นว่าการประกาศอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้จะเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.25% – 4.50% ส่งผลกดดันภาพรวมสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งคริปโทฯ และหุ้นสหรัฐฯ มากไปกว่านั้น นักลงทุนจำนวนมากยังเชื่อมั่นว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 เพียง 0.25% หรือ 1 ครั้งเท่านั้น ดังนั้น หากสถานการณ์ในปี 2025 มีความกดดันให้ FED ต้องลดดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ จะส่งผลให้ตลาดเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น และเป็นปัจจัยสนับสนุนสินทรัพย์เสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญ

อ้างอิงจาก Cmegroup.com
 

3. Fear and greed index ปรับตัวสู่สภาวะ Neutral

หลังจากภาพรวมของตลาดคริปโทฯ ปรับตัวลง เครื่องมือ Fear and greed index ที่ใช้ตรวจสอบสภาวะความโลภและความกังวลของนักลงทุน แสดงให้เห็นถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือน จากสภาวะที่นักลงทุนโลภและโลภมาก (Index : 70 – 95) กลับเข้าสู่สภาวะปกติ (Index : 50) ในวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา ดังนั้น การปรับตัวลงของราคาในครั้งนี้เป็นโอกาสในการเติบโตของภาพรวมคริปโทฯ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว จากปัจจัยพื้นฐานที่กลับเข้าสู่สภาวะปกติ

อ้างอิงจาก Alternative.me
 

นายมานะ คานิโยว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านพัฒนาธุรกิจและพาณิชย์ บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “แม้ราคา Bitcoin มีการปรับตัวลดลงช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา แต่ก็สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของตลาดคริปโทฯ ของโลก ที่ได้รับแรงหนุนอย่างมากจากการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของ Donald Trump ที่มีนโยบายเน้นการส่งเสริมอุตสาหกรรม คริปโทฯ ซึ่งหากนโยบายเหล่านี้ได้รับการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ย่อมส่งผลให้ตลาดคริปโทฯ มีโอกาสเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต

อย่างไรก็ดีนักลงทุนควรจะ คิดเสมอเรื่องแผนการของตนเอง เรื่องการลงทุนและความเสี่ยงที่รับได้“

**หมายเหตุ คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต หรือผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดำเนินงานในอนาคต

**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุนแต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง ควรวิเคราะห์อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน