ราคาน้ำมันดิบร่วงกว่า 7% WTI ปิด 55.69 เหรียญสหรัฐฯ กังวลต่ออุปสงค์และอุปทานโลก ฉุดราคาน้ำมันดิบทรุดต่ำสุดในรอบปี คาดสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวกรอบ 53 – 57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
บริษัท ไทยออยล์ รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบร่วงหนักกว่า 7% ปิดตลาดแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน พ.ย.2560 หลังอ่อนตัวอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 12 วันติดต่อกัน โดยนักลงทุนและกองทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบหลังคาดแนวโน้มอุปสงค์มีทิศทางอ่อนตัว ประกอบกับความไม่แน่นอนของอุปทานที่อาจปรับเพิ่มขึ้น
ด้าน U.S. Commodity Futures Trading Commission (CTFC) เผยว่า การถือครองสัญญาซื้อน้ำมันดิบล่วงหน้า (Long position) ของนักลงทุนและกองทุนบริหารความเสี่ยง (Hedge Funds) ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 พ.ย. 2561 ปรับลดลงมาอยู่ที่ 173,379 สัญญา ลดลงกว่า 41,211 สัญญา นับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน ส.ค. 2560 หลังตลาดทุนที่ปรับตัวลงทั่วโลกในช่วงก่อนหน้าสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอของการขยายตัวทางเศรษฐกิจของโลกในอนาคต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่ออุปสงค์ของน้ำเชื้อเพลิง
ด้านโอเปกเปิดเผยคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบในปี 2562 ประจำเดือน พ.ย. 2561 เติบโตที่ 1.29 ล้านบาร์เรลต่อวัน ปรับลดลง 70,000 บาร์เรลต่อวันจากคาดการณ์ประจำเดือน ต.ค. 2561 และนับว่าเป็นการปรับคาดการณ์ลงเป็นเดือนที่ 4ติดต่อกัน ในขณะที่อุปทานน้ำมันดิบล่าสุดเดือน ต.ค. 2561 ปรับเพิ่มขึ้น 127,000บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 32.9ล้านบาร์เรลต่อ แล ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์ก่อนหน้าแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ที่ 11.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันที่ 13 พ.ย.2561 ที่ 55.69 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ลดลง 4.24 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล หรือลดลง 7.61% ส่วนเบรนท์ ปิด 65.47 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ลดลง 4.65 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
บริษัท ไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ เวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 53 – 57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลและเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 63 – 67 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล