HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับ 1,350 – 1,360 จุด แนวต้าน 1,375 – 1,380 จุด คาดดัชนียังถูกกดดันจากฟันด์โฟลว์ไหลออก ระหว่างรอนโยบายทรัมป์ คาดได้แรงหนุนมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ ด้าน DJIA Futures +0.12% หลังทีมเศรษฐกิจทรัมป์เผยจะค่อยทยอยปรับขึ้นภาษีศุลกากรในอัตรา 2 – 5%/เดือน จากเดิมคาดขึ้นภาษีสินค้าทุกประเภท 10 – 20% หุ้นเด่นแนะเก็งกำไร PCE ซื้อ MASTER
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,350 – 1,360 จุด แนวต้าน 1,375 – 1,380 จุด คาดดัชนีถูกกดดันจาก Fund Flow ไหลออก ระหว่างรอประเมินนโยบายการค้าของทรัมป์ แต่คาดยังได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อจาก มาตรการ Easy E-Receipt, มาตรการแจกเงินผู้สูงอายุ และมาตรการส่งเสริมลงทุนด้าน Data Center แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT,CRC,BJC,SYNEX หุ้น ADVANC,INTUCH,GULF,WHA,SIS คาดได้ประโยชน์จากการลงทุน Data Center หุ้น VGI,BTS,BA คาดได้ประโยชน์จากร่าง พรบ.Entertainment Complex
ขณะที่ช่วงค่ำเมื่อวานนี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้แสดงวิสัยทัศน์ในงาน Dinner Talk 1) ตลท. ดูแลเรื่องความโปร่งใสของ บจ. และควบคุมโรบอทเทรด 2) เพิ่ม บจ.ใหม่ ๆ ที่ได้รับ BOI เข้าจดทะเบียนมาขึ้น 3) นําธุรกิจใต้ดิน เข้าสู่ระบบอย่างถูกต้อง เช่น พนันออนไลน์ และหนุน Entertainment Complex 4) มาตรการซื้อหุ้นคืน ในหุ้นที่มีมูลค่าต่ํากว่า BV 5) หนุนธุรกิจ Data center, Stem Cell,Crypto Currency, การซื้อขายคาร์บอนเครดิต 6) หนุน มาตรการช่วยลดค่าไฟฟ้า โดยเน้นพลังงานสะอาด
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐปิดวานนี้ DJIA +0.86%, S&P500 +0.16%, Nasdaq -0.38% ได้แรงหนุนจากกลุ่มบริการสุขภาพ United Health +3.99% รับข่าวไบเดนเพิ่มงบเบิกจ่ายประกันสุขภาพปี 69 +2.2% ส่วนกลุ่มพลังงานปรับขึ้นตามราคา น้ำมันดิบ ตอบรับมาตรการคว่ำบาตรธุรกิจน้ำมันรัสเซียรอบใหม่ ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีปรับลดลง หลัง US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นสูงสุดที่ 4.805% หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคสหรัฐขยายตัวดีกว่าคาด ส่งผลให้ CME FedWatch ชี้โอกาส 97.3% ที่จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25 -4.5% ในการประชุมวันที่ 29 ม.ค. และคาดปีนี้จะลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งใน ก.ย.
ขณะที่เช้านี้ DJIA Futures +0.12% หลังทีมเศรษฐกิจของทรัมป์เผยจะค่อยทยอยปรับขึ้นภาษีศุลกากรในอัตรา 2 – 5%/เดือน จากเดิมคาดจะขึ้นภาษีสินค้าทุกประเภท 10 – 20% และขึ้นภาษีสินค้าจีน 60% เพื่อลดความเสี่ยงเงินเฟ้ออาจสูงขึ้น
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวันนี้ติดตาม US CPIธ.ค. คาด 2.9% และ พ.ย.2.7% YoY
หุ้นเด่นแนะนำ ได้แก่ PCE (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Consensus 3.55 บาท) งวด 9M67 บริษัทมีกำไรสุทธิ 397 ล้านบาท +103%YoY ตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มกำไรปกติในงวด 4Q67 จะยังดีขึ้น QoQ จากราคา CPO ในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับราคาในตลาดโลก ช่วยชดเชยปริมาณขาย B100 ที่ถูกกระทบจากการปรับสัดส่วนเป็น B5 ตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย.67 ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นน่าจะรักษาระดับได้และผันผวนน้อยกว่าคนอื่นเนื่องจากธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ โดยทั้งปี 67 ผู้บริหารคาดรายได้จะเติบโตได้ 10-15% ตามเป้าหมาย
ส่วนในปี 68 แม้ในประเทศจะถูกกระทบจาก B5 แต่จะได้ประโยชน์จากตลาดส่งออกในช่วง 1H ที่ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้น โดยราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงจากนโยบายปรับส่วนผสมไบโอดีเซลของอินโดนีเซียเพิ่มเป็น B40 ส่วน PCE เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่มี Market Share อันดับ 1 ของไทย มีความได้เปรียบการแข่งขันที่ตอนนี้ไทยยังไม่มีการเก็บ export tax
หุ้น MASTER (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 58.92 บาท) กำไรสุทธิ 9M67 อยู่ที่ 303 ลบ.,+20%YoY หนุนด้วยรายได้ศัลยกรรมและรายได้ต่างชาติ รวมถึง Equity Income ที่สูงขึ้น ขณะที่ 4Q67 คาดการดำเนินงานยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากการจัดอีเว้นท์ในต่างประเทศ
ส่วนภาพรวมปี2568 นี้ ทางผู้บริหาร MASTER วาง เป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% โดย เป็นการโตแบบ Organic ในสัดส่วน 80% และอีก 20%เติบโตแบบ Inorganic ด้วยกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) ทั้งนี้ ตลาดคาด กำไรสุทธิปี 67 และ 68ของ MASTER* ที่ 501 ล้านบาท ( +22%YoY) และ 624 ล้านบาท (+25%YoY)