บล.CGSI : ตลาดขาดปัจจัยบวกหนุน …SET 1,380-1,395 จุด

HoonSmart.com >> บล.CGSI มองตลาดขาดปัจจัยบวกหนุน … SET Index  แกว่งผันผวนบริเวณ 1,380-1,395 จุด หลังรับรู้ปัจจัยต่างๆ ไปพอสมควร อาจเผชิญแรงกดดันจากความกังวลต่อความไม่แน่นอนของสงครามการค้า

บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI สรุปภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ และทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ ( 9 ม.ค.) โดย : Trend Spotter

• สรุปภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐ :

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวน หลังรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญออกมาในทิศทางที่ต่างกัน โดยดัชนี DJIA และ S&P500 ปิดบวก ขานรับนายวอลเลอร์ สมาชิก FOMC กล่าวสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงของ Fed ปีนี้ ท่ามกลางแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยังคงมีอยู่ โดยในบันทึกการประชุมของ Fed เดือนที่ผ่านมา (17-18 ธ.ค.) แสดงให้เห็นว่า ผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่มองว่า ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น

อีกทั้ง มีรายงานว่า “ทรัมป์” เตรียมแผนที่จะประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจแห่งชาติ หลังเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. เพื่อให้มีอำนาจในการใช้นโยบายตั้งกำแพงภาษีนำเข้า

สำหรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อวานนี้ (8 ม.ค.) ตัวเลขการเปลี่ยนแปลงในการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมจาก ADP เดือนธ.ค. ต่ำสุด นับตั้งแต่เดือนส.ค. 2024 โดยเพิ่มขึ้นเพียง 1.22 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.39 แสนตำแหน่ง (vs. เดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.46 แสนตำแหน่ง) สวนทางกับรายงานตัวเลขผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ที่ลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 2.01 แสนราย ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 2.14 แสนราย

ดังนั้น ติดตามรายงานข้อมูลอื่นเพิ่มเติม เพื่อประเมินแนวโน้มการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของ Fed ต่อไป โดยพรุ่งนี้ (10 ม.ค.) จะมีการเปิดเผยตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง-การจ้างงานนอกภาคการเกษตร-อัตรากการว่างงาน เดือนธ.ค.

ความไม่แน่นอนในสหรัฐฯ นี้ ส่งผลให้นักลงทุนเข้าสะสมในสินทรัพย์ปลอดภัย และ สนับสนุนให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น 0.3%

ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงกว่า 1.2% หลัง EIA รายงานตัวเลขสินค้าคงคลังน้ำมันดิบสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 9.59 แสนบาร์เรล ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล รวมถึงแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่า

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปิดทำการวันนี้ เพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อการถึงแก่อสัญกรรมของอดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์

• SET Index :

เราคาดว่า SET Index จะแกว่งผันผวนบริเวณ 1,380-1,395 จุด หลังตลาดรับรู้ปัจจัยต่างๆ ไปพอสมควรแล้ว อย่างไรก็ตาม ตลาดอาจเผชิญแรงกดดันจากความกังวลต่อความไม่แน่นอนของสงครามการค้า หลังมีรายงานว่าทรัมป์กำลังพิจารณาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทางเศรษฐกิจระดับชาติ เพื่อมอบความชอบธรรมทางกฎหมายแก่มาตรการรีดภาษีอันครอบคลุม

ติดตามรายงานผลประกอบ 4Q24 หุ้นกลุ่มแบงก์ โดยจากประมาณการของ Bloomberg Consensus คาดว่าธนาคารส่วนใหญ่ (ยกเว้น Tisco) จะมีกำไรสุทธิลดลง qoq เนื่องจาก NIM ที่ลดลง แต่หากเทียบ yoy แล้ว คาดว่า BBL, KTB, KKP จะมีกำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่งจากต้นทุนเครดิตที่ลดลง yoy

• หุ้นแนะนำ

MOSHI : เราเชื่อว่าผู้ค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์จะมี SSSG เพิ่มสูงขึ้น qoq ใน 4Q24 โดย MOSHI ยังคงเป็นหุ้น Top pick ของเรา เพราะ บริษัทน่าจะมี SSSG แข็งแกร่งและอัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวอย่างน้อยจนถึง 3Q25 เพราะฐานต่ำหลังมีปัญหาสินค้าขาดในปีที่แล้ว

(Take profit : 43.75 / Stop loss : 41.25)

SCB : เราคาดว่า SCB จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 2 พันล้านบาทในปี FY25-26 หลังจากขายเงินลงทุนในบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด (Not listed) ซึ่งจะส่งผลให้ EPS เติบโต 7.3-7.4% ในปี FY25-26 ดังนั้น เราจึงคาดว่า SCB จะจ่ายเงินปันผลสูงถึง 11.0-11.8 บาท/หุ้นในปี FY25-26 หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 80%

(Take profit : 121.5 / Stop loss : 117.0)

#MacroWealthResearch
#CGSInternational