กกร.ร้องรัฐตรึงค่าไฟ 3.99 บาท คาดจีดีพี ปี’67 โต 2.8-3.33%

HoonSmart.com>>กกร.ร้องรัฐบาลตรึงค่าไฟ 3.99 บาท เร่งตั้งกรอ.พลังงานแก้ปัญหาระยะยาว สร้างความเชื่อมั่น เพิ่มความสามารถด้านการแข่งขัน คาดจีดีพี ปี’67 โต 2.8-3.33%

นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย  เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ทางกกร.ต้องการเรียกร้อง หนึ่ง ให้รัฐบาลตรึงค่าไฟในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม-เมษายน 2567) ที่ 3.99 บาท เพราะเป็นระดับที่สามารถอยู่และแข่งขันได้ในตลาดโลก โดยเฉพาะแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีการผลิตสินค้าเหมือนกันและส่งออกไปยังประเทศเดียวกัน ซึ่งมีต้นทุนค่าไฟต่ำกว่าไทย เช่น เวียดนามอยู่ที่ 2.70 บาทต่อหน่วย และอินโดนีเซียอยู่ที่ 3.30 บาทต่อหน่วย ซึ่งดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศไปได้มาก หากไทยสามารถทำให้ต้นทุนพลังงานแข่งขันได้ในระยะยาว ก็จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในประเทศ และสามารถดึงนักลงทุนต่างประเทศย้ายฐานการผลิตมาที่ไทยได้เพื่อรองรับกับแนวโน้มของการย้ายฐานการผลิตมาที่เอเชียและไทยก็เป็นหนึ่งในเป้าหมาย

“ครั้งนี้รัฐบอกว่าจะกดให้อยู่ที่ 4.20 บาท ก็ยังสูง เพราะจะทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น 5%-6% และ ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น 2%-4% และยิ่งใช้ที่ 4.68 บาทต่อหน่วย ต้นทุนจะเพิ่มขึ้น 17% ราคาสินค้าจะเพิ่มขึ้น 5%-10% แล้วจะไปแข่งขันได้อย่างไร”นายเกรียงไกร กล่าว

นายเกรียงไกร กล่าวว่า วันนี้นอกจากต้นทุนค่าไฟแพงแล้ว ผู้ประกอบการไทยยังเจอปัญหาสินค้าราคาถูกที่ไม่มีคุณภาพ และสินค้าเถื่อนที่แจ้งข้อมูลเท็จ เข้ามาถล่มตลาดอีก แม้แต่โรงงานเหล็กที่ทำธุรกิจมา 60 ปี ยังต้องปิดตัวเองลง เพราะเป็นหนี้สะสมร่วม 4,000 ล้านบาทเพราะไปต่อไม่ไหว เอสเอ็มอีที่ผลิตเพื่อใช้ในประเทศหรือผลิตเพื่อทดแทนสินค้านำเข้าก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน รวมทั้งยังเจอปัญหาสินค้าออนไลน์ที่เข้ามาถล่มเอสเอ็มอีอีก ภาครัฐต้องเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน  มิฉะนั้นความสามารถในการแข่งขันจะไม่ไหว และการจ้างงานของไทยจะพังได้

สอง กกร.ต้องการให้รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ร่วมกันหาสูตรราคาพลังงานที่เหมาะสมเพื่อแก้ปัญหาค่าไฟในระยะยาว ไม่ใช่ต้องมีการปรับทุกๆ 4 เดือน และแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 1 เดือนเหมือนที่ผ่านมา เพราะทำให้นักลงทุนในประเทศเสียความเชื่อมั่น และนักลงทุนต่างประเทศก็ไม่กล้าเข้ามา ซึ่งค่าพลังงานเป็นเรื่องสำคัญ จึงต้องการขอร้องให้ร่วมกันแก้ไขให้ได้อย่างยั่งยืน จะเป็นจุดแข่งให้ประเทศไทยทันที โดยค่าไฟที่ผู้ประกอบการอยากได้จริงๆ คือ 2.70-3.30 บาท แต่ถ้าได้ 3.99 บาท ถือว่าเป็นการซื้อเวลาไปก่อนในช่วง 4 เดือนข้างหน้า

“ปีหน้ามีปัจจัยแปรผันเยอะที่เป็นความท้าทาย อย่างงบประมาณปี 2557 ยังไม่ออกมาใช้ จะออกมาเดือนพ.ค.ปี 2567 เป็นหลุมดำของเศรษฐกิจไทย ผู้ประกอบการด้านอุปกรณ์ก่อสร้าง บ่นมาแล้วว่าผู้รับเหมาไม่มีเงินจ่าย เพราะต้องรองบประมาณใหม่ออกมาก่อน ถึงจะมาจ่ายของเก่า จังหวะเศรษฐกิจจะสะดุดยาว คนที่อยู่ไม่ได้ ก็เห็นการล้ม และพองบประมาณออกมาก็ต้องรีบใช้ เพราะมีเวลาเหลือใช้ไม่กี่เดือนก็จะเข้าปีงบประมาณใหม่ ซึ่งการรีบใช้งบประมาณอาจเกิดความไม่รอบคอบและคิดไม่ทัน ต้องหามาตรฐานเกลี่ยให้ทั่วและดูให้ดี”นายเกรียงไกร กล่าว

นายเกรียงไกร กล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มการแข่งขันกับตลาดส่งออกในตลาดโลกได้ ซึ่งต้องทำการเจรจาเอฟทีเอกับคู่ค้า ที่ทำค้างอยู่กับอียู ต้องเริ่มคุยกันให้เร็วขึ้น เพราะจะเป็นปัจจัยเอื้อต่อไทย การย้ายฐานการผลิตของเอฟดีไอที่จะเข้ามาในภูมิภาคนี้และไทยเป็นเป้าหมาย ให้ดูแลต้นทุนพลังงานให้เกิดความสมดุล คือ หนึ่งต้องแข่งขันได้ และดูแลด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป”นายเกรียงไกร กล่าว

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานกกร. กล่าวว่า กกร.คาดว่าเศรษฐกิจไทย หรือ จีดีพี ปี 2567 จะเติบโตประมาณ 2.8%-3.3% มีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยจะโตได้น้อยกว่า 3% โดยปีหน้าต้องเผชิญกับเศรษฐกิจโลกชะลอตัว สหรัฐฯ และยุโรปชะลอตัวจากภาวะการเงินที่ยังตึงตัวต่อเนื่อง ส่วนเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มเติบโตไม่ถึง 5% เนื่องจากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจของเอเชียไม่รวมจีน ได้แก่ อาเชียน-5 เกาหลีใต้ และไต้หวัน มีแนวโน้มขยายตัวได้ดีขึ้นเฉลี่ยที่อัตรา 3.7%

นอกจากนี้ ตะวันออกกลางและอินเดีย มีแนวโน้มเติบโตได้ในระดับสูงที่ประมาณ 3.4% และ 6.3% ตามลำดับ สามารถเป็นปัจจัยสนับสนุนการส่งออกของไทยในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ ชั้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ และอาหาร

ในขณะที่ความเสี่ยงภายในประเทศไทยจะมีเรื่องหนี้ครัวเรือน ความสามารถในการชำระหนี้ การเข้าถึงแหล่งเงินทุนของเอสเอ็มอี การเข้าสู่สังคมสูงวัย และการเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

“ปีหน้าเรายังต้องพึ่งพาการท่องเที่ยว โดยคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 5 ล้านคน เป็น 33 ล้านคน และการส่งออกที่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งเรากำลังหารือกันว่าจำเป็นต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน เร่งเจรจาเอฟทีเอ จะดึงคนต่างชาติเข้ามา อยากให้จัดตั้งคณะกรรมการ กรอ. ให้เร็วที่สุด และตรึงค่าไฟ เพราะถ้าต้นทุนราคาพลังงานเพิ่มขึ้น ราคาสินค้าก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วย เศรษฐกิจช่วงนี้อยู่ในช่วงไม่ฟื้น”นายสนั่น กล่าว