HoonSmart.com>>ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนลฯ คาด SET Index สัปดาห์นี้ Sideway ลุ้นทดสอบบริเวณ 1,400 จุด จับตามาตรการแก้หนี้เฟส 2 หุ้นเด่น CRC,SCB
บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย) หรือ CGSI สรุปภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ และทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ (6 ม.ค.2568) โดย Trend Spotter
สรุปภาพรวมตลาด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันศุกร์ที่ผ่านมา (3 ม.ค.) รีบาวด์ปิดในบวก นำโดยแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี (Nvidia +4.5%, SMCI +10.9%) เนื่องมาจากอานิสงค์การเติบโตของ AI ในทางเดียวกัน Microsoft ประกาศแผนลงทุน 8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2025 เพื่อสร้าง Data Center ที่ใช้ AI ส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานด้านไฟฟ้า (Constellation Energy +4.0%, Vistra +8.5%) ปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะมีแรงกดดันจาก 1) หุ้นของ U.S. Steel (-6.5%) หลังปธน. ไบเดน มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ Nippon Steel บริษัทอุตสาหกรรมเหล็กของญี่ปุ่น เข้าซื้อกิจการ และ 2) หุ้นกลุ่มเบียร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (Molson Coors -3.4%) ที่ปรับตัวลดลงก็ตาม หลังแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของสหรัฐฯ ออกคำแนะนำเกี่ยวกับความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งจากการดื่มแอลกอฮอล์
ด้านราคาทองคำที่ร่วงลงต่อเนื่อง (-0.5%) ยังคงถูกกดดันโดยดอลลาร์ที่แข็งค่า จากนโยบายสนับสนุนการค้าในสหรัฐฯ ที่อาจทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อและส่งผลให้ Fed ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ของว่าที่ปธน. ทรัมป์ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.
สำหรับราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวก 1.1% เนื่องมาจากความคาดหวังของตลาดต่อการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในจีน และ พยากรณ์อากาศที่หนาวเย็นในบางภูมิภาคที่จะช่วยกระตุ้นความต้องการน้ำมันสำหรับการทำความร้อนเพิ่มขึ้น
ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ เพิ่มเติม หลังรายงานตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนธ.ค. จากสถาบัน ISM ขยายตัวที่ระดับ 49.3 สูงกว่าตลาดคาดที่ 48.2 (vs. เดือนพ.ย. 48.4) และ แบบจำลอง GDPNow ของ Fed สาขาแอตแลนตา คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐใน 4Q24 จะขยายตัว 2.4% (vs. 1Q24 ที่ 1.4%, 2Q24 ที่ 3.0%, 3Q24 ที่ 2.8%)
โดยสัปดาห์นี้ ติดตาม
1) ดัชนี PMI ภาคการบริการเดือนธ.ค. (6 ม.ค.)
2) ตำแหน่งว่างงานเปิดใหม่จาก JOLTS เดือนพ.ย. (7 ม.ค.)
3) การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมจาก ADP เดือนธ.ค. (8 ม.ค.)
4) รายงานการประชุมของ FOMC (9 ม.ค.)
5) รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง-การจ้างงานนอกภาคการเกษตร-อัตราการว่างงาน เดือนธ.ค. (10 ม.ค.) รวมถึงติดตามรายงานข้อมูลเงินเฟ้อเดือนธ.ค. ของยูโรโซน (7 ม.ค.)
SET Index
เราคาดว่า SET Index สัปดาห์นี้ จะแกว่ง Sideway ในกรอบ 1,370-1,395 จุด และ ลุ้นทดสอบบริเวณ 1,400 จุด แต่อาจไม่ทะลุบริเวณดังกล่าวท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าของทรัมป์ และ เงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่า
สำหรับปัจจัยในประเทศ ติดตามรายงานข้อมูลเงินเฟ้อเดือนธ.ค. ของไทยวันนี้ (10.30 น.) ที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัวที่ระดับ 1.53% (vs. เดือนพ.ย. 0.95%)
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังเตรียมนำมาตรการบรรเทาหนี้เฟส 2 ที่จะขยายมาจากนโยบาย “คุณสู้ เราช่วย” เมื่อปลายปีที่แล้ว เข้าครม. เดือนนี้ เพื่อช่วยลูกหนี้ Non-Bank ผ่านวงเงินซอฟต์โลน 5 หมื่นล้านบาท โดยรัฐบาลคาดว่าจะเติมสินเชื่อเข้าสู่ระบบ โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังเข้าไม่ถึงสินเชื่อในพื้นที่ชนบท เบื้องต้นวงเงิน 1 ล้านล้านบาท
หุ้นแนะนำ
CRC เป็น Top pick ของกลุ่มค้าปลีกไทยเนื่องจากเรามองว่ากำไรสุทธิของบริษัทน่าจะกำลังเข้าสู่ขาขึ้น (+14% CAGR ในปี FY23-26) เติบโตแข็งแกร่งไปจนถึง 4Q24 และปี FY25 โดยมีแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่กลับมาฟื้นตัว, สถิตินักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง, การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพและดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงหลังอัตราดอกเบี้ยอยู่ในขาลง
(Take profit : 34.25 / Stop loss : 32.00)
SCB : เราคาดว่า SCB จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 2 พันล้านบาทในปี FY25-26 หลังจากขายเงินลงทุนในบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ซึ่งจะส่งผลให้ EPS เติบโต 7.3-7.4% ในปี FY25-26 ดังนั้น เราจึงคาดว่า SCB จะจ่ายเงินปันผลสูงถึง 11.0-11.8 บาท/หุ้นในปี FY25-26 หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 80%
(Take profit : 120.0 / Stop loss : 116.5)
#MacroWealthResearch
#CGSInternational