“คิงส์ฟอร์ด”คาดแนวโน้มดัชนีทรงตัว หุ้นเด่น PCE-TEGH

HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มหุ้นทรงตัวกรอบแนวรับ 1,370 – 1,380 จุด แนวต้าน 1,390 – 1,400 จุด อยู่ระหว่างรอความชัดเจนนโยบายใหม่ “ทรัมป์” และตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ ปลายสัปดาห์ ด้านปัจจัยในประเทศรอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ จากรัฐบาล ติดตามรายงานเงินเฟ้อเดือนธ.ค. แนะซื้อเก็งกำไรกลุ่มอุปโภค หุ้นกลุ่มปันผลสูง พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นแนะ PCE, TEGH

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,370 – 1,380 จุด แนวต้าน 1,390 – 1,400 จุด อยู่ระหว่างรอความชัดเจนจากนโยบายใหม่ของทรัมป์ และรอ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ๆ จากรัฐบาล แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มอุปโภค เช่น CPALL,CPAXT,MALEE,RBF กลุ่ม High Dividend เช่น SCB,KTB,ADVANC,INTUCH,SIRI

ภาพรวม Fund Flow ต่างชาติในกลุ่ม TIP สัปดาห์ที่ผ่านมาขายสุทธิ -48.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากอยู่ระหว่างรอประเมินผลกระทบจากนโยบายทรัมป์ 2.0 ที่จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.

ส่วนประเด็นที่ติดตามวันนี้ กระทรวงพาณิชย์จะรายงาน CPI ไทย ธ.ค. คาด +1.4% และพ.ย. +0.95% YoY

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐปิดวันศุกร์ DJIA +0.80%, S&P500 +1.26%, Nasdaq +1.77% นำโดยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและทคโนโลยี เช่น Tesla, Nvidia และ Microsoft +1.1% รับแผนลงทุนมูลค่า 8 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 68

สัปดาห์นี้ติดตาม PMI/ISM ภาคบริการสหรัฐ ธ.ค., JOLTs ตัวเลขเปิดรับสมัครงานสหรัฐ พ.ย. คาด 7.65 และต.ค. 7.744 ล้านราย, ADP การจ้างงานภาคเอกชน ธ.ค. คาด 143,000 และพ.ย. 146,000 ราย , Fed Minutes ธ.ค., ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ธ.ค. คาด 150,000 และพ.ย. 227,000 ราย และอัตราว่างงาน ธ.ค. คาดทรงตัวที่ 4.2% รวมถึงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดหลายๆ ท่าน

หุ้นแนะนำ ได้แก่ PCE (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus N/A) งวด 9M67 บริษัทมีกำไรสุทธิ 397 ล้านบาท +103%YoY ตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มกำไรปกติในงวด 4Q67 จะยังดีขึ้น QoQ จากราคา CPO ในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับราคาในตลาดโลก ช่วยชดเชยปริมาณขาย B100 ที่ถูกกระทบจากการปรับสัดส่วนเป็น B5 ตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย.67 ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นน่าจะรักษาระดับได้และผันผวนน้อยกว่าคนอื่นเนื่องจากธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ โดยทั้งปี 67 ผู้บริหารคาดรายได้จะเติบโตได้ 10-15% ตามเป้าหมาย

ส่วนในปี 68 แม้ในประเทศจะถูกกระทบจาก B5 แต่จะได้ประโยชน์จากตลาดส่งออกในช่วง 1H ที่ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้น โดยราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงจากนโยบายปรับส่วนผสมไบโอดีเซลของอินโดนีเซียเพิ่มเป็น B40 ส่วน PCE เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่มี Market Share อันดับ 1 ของไทย มีความได้เปรียบการแข่งขันที่ตอนนี้ไทยยังไม่มีการเก็บ export tax

หุ้น TEGH (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 4.63 บาท) แนวโน้มการดำเนินงานปกติ 4Q67 ยังดูดีต่อเนื่อง YoY จากราคายางและน้ำมันปาล์มที่อยู่ในระดับสูง นอกจากนี้คาดว่าสัดส่วนปริมาณขายยาง EUDR (ซึ่งราคาขายจะสูงกว่ายางปกติ/ 3Q67 สัดส่วนยางแท่ง EUDR อยู่ที่ราว 32%) จะสูงขึ้นด้วยแม้ EU เลื่อนการบังคับใช้ออกไปปี 69 แต่ลูกค้ายังสั่งซื้ออยู่

ด้าน TEGH เองวางแผนขยาย Capacity ปี68 ในธุรกิจ Crude Palm Oil +51%, ธุรกิจ Organic Waste Management +18%, ธุรกิจ Biogas +48%, และ ธุรกิจ Electricity +44% ปัจจุบันตลาดคาดว่าในปี67 และ68 กำไรสุทธิของ TEGH* จะอยู่ที่ระดับ 526 ลบ.(+145%YoY) และ 611 ลบ.(+16%YoY)