AHC ขยายธุรกิจด้านความงาม ผันตัวสู่หุ้นเติบโตขั้นต่ำ 10%/ปี

HoonSmart.com>> รพ.เอกชล (AHC)  ปรับโครงสร้างธุรกิจผันตัวสู่หุ้น Growth  Stock รายได้โตปีละไม่ต่ำกว่า 10% จากหุ้นปันผล ลุย Wellness ด้านความงาม คาดรายได้รวมปีนี้อยู่ที่ 1,700 ล้านบาท

นายสิริพจน์ มาโนช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กร บริษัท โรงพยาบาลเอกชล (AHC) กล่าวว่า  โรงพยาบาลเอกชลวางแผนยกระดับการเป็น Smart Hospital หลังจากเปิดให้บริการมา 43 ปี โดยวางงบประมาณไว้ 180 ล้านบาทเพื่อเพิ่มความสามารถการแข่งขัน ขยายฐานลูกค้าในวงกว้าง อาทิ กลุ่มคนวัยทำงาน ครอบครัว ผู้สูงอายุ ผู้รักสุขภาพและความงาม มุ่งมั่นที่จะรักษามาตรฐานคุณภาพ ยกระดับการรักษาและให้บริการให้เป็นที่ไว้วางใจ สร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ป่วยและผู้ที่เข้ามาใช้บริการ พร้อมรักษาอัตราการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

สำหรับ งบลงทุน 180 ล้านบาท แยกเป็นการลงทุนในสิ่งอำนวยความสะดวก 60% ลงทุนด้านเทคโนโลยี 20% โครงสร้างพื้นฐาน 10% และอื่นๆ 10% คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี โดยใช้เงินลงทุนจากเงินสดของบริษัทที่มีอยู่ประมาณ 1,000 ล้านบาท ในการขยายธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้น

ปัจจุบัน โรงพยาบาลได้พัฒนาบริการ อาทิ Telemedicine เป็นอีกทางเลือกในการพบแพทย์ รวมถึงปรับปรุงห้องพักผู้ป่วย ห้องผ่าตัด (OR) ห้องผู้ป่วยวิกฤต (ICU) รองรับปริมาณฐานลูกค้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และมีความต้องการด้านสาธารณสุขที่หลากหลาย

“เรามีการรีโนเวทห้องไอซียูให้เป็นห้องเดี่ยวเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และมีห้อง ICU สำหรับแยกโรคโดยเฉพาะเพื่อรองรับโรคอุบัติใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตเพื่อให้การรักษาไร้รอยต่อ แล้วก็จะมีปรับปรุงส่วนหน้าบ้านให้ทันสมัยมากขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจปีนี้ มีผู้ใช้บริการตรวจสุขภาพ ผู้ป่วยทั่วไปทั้งผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยในกลับมาใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีอัตราการแอดมิท 90%”นายสิริพจน์ กล่าว

นายสิริพจน์ กล่าวว่า โรงพยาบาลจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 20 ปีแล้ว ที่ผ่านมาจะเป็นบริษัทที่จ่ายปันผลดีมาโดยตลอด ถูกเรียกว่าเป็น Dividen Stock ในสายตาของนักลงทุน ซื้อหุ้นแล้วเก็บยาว และมีการขยายตัวของธุรกิจเฉลี่ยเป็นตัวเลขหลักเดียวมาตลอด แต่วันนี้ทาง AHC ต้องการปรับไปสู่หุ้นเติบโต (Growth Stock) ซึ่งจะต้องทำให้รายได้หรือกำไรเพิ่มขึ้นปีละไม่ต่ำกว่า 2 หลัก หรือไม่ต่ำกว่า 10%

โรงพยาบาล เริ่มขยายธุรกิจใหม่เข้าสู่กลุ่ม Wellness ด้านความงามเป็นครั้งแรก โดยจับมือกับโรงพยาบาล ไอดี( Id Hospital ) ของประเทศเกาหลี ซึ่งติดอันดับ 5 ด้านการศัลยกรรม และได้รับรางวัลโรงพยาบาลที่มีจำนวนผู้ใช้บริการด้านศัลยกรรมมากที่สุดในเกาหลี 4 ปีซ้อน เพื่อรองรับคนไทยที่ต้องการทำศัลยกรรม จากผู้เชี่ยวชาญและมาตรฐานการรักษาในระดับ Regional สร้างระบบการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ด้านศัลยกรรมตกแต่งแบบไร้รอยต่อที่ครบวงจร

“ในการทำศัลยกรรมต้องมีการตรวจสุขภาพก่อนผ่าตัด การเตรียมตัวผ่าตัด และการดูแลหลังผ่าตัด ลูกค้าที่ต้องการไปใช้บริการของโรงพยาบาลไอดี ก็มาให้เราตรวจสุขภาพให้ตามมาตรฐานของไอดี แล้วเราจะแนะนำเรื่องการทำวีซ่า ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก แล้วประสานงานกับทางโรงพยาบาลให้ และหลังผ่าตัดเราก็ช่วยดูแลบาดแผลให้ ทำให้มั่นใจว่าผ่าตัดได้แน่ ไม่เสียเวลา เพราะเพนพ้อยท์ของคนที่ไปทำศัลยก่รมคือตรวจสุขภาพไปแล้ว แต่ไม่ตรงกับมาตรฐานของโรงพยาบาล ก็ผ่าตัดไม่ได้ ทำให้เสียเวลา และโรงพยาบาลที่เกาหลีมีวันหยุด มีเวลาเปิด ไม่เหมือนไทยที่เปิด 24 ชั่วโมงทุกวัน”นายสิริพจน์ กล่าว

นายสิริพจน์ คาดว่า จะได้รับความนิยมจากกลุ่มเป้าหมาย และสามารถเพิ่มอัตราการใช้บริการในแผนกอื่นๆ เพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้คาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 และคาดว่าจะมีรายได้จากการให้บริการดังกล่าว 50-100 ล้านบาท เพราะเป็นโรงพยาบาลแรกในภาคตะวันออกที่มีการให้บริการครบวงจร

รวมทั้ง ในช่วงที่ผ่านมา จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภาคตะวันออกทำให้มีจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น จากประชากรแฝงที่เข้ามาอยู่อาศัยเพื่อทำงานทั้งชาวไทยและต่างชาติ ประกอบกับแนวโน้มการดูแลรักษาสุขภาพ ส่งผลให้บริการทางการแพทย์มีความต้องการเพิ่มขึ้น

สำหรับ ผลประกอบการปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1,700-1,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการที่มีลูกค้ามากขึ้น ทำให้รายได้ปีนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาส 1 ปีนี้มีรายได้ 425.16 ล้านบาท กำไร 41.96 ล้านบาท ไตรมาส 2 มี รายได้ 443.62 ล้านบาท กำไร 35.09 ล้านบาท  ไตรมาส 3 มีรายได้ 485.70 ล้านบาท กำไร 57.48 ล้านบาท และงวด 9 เดือน ปี 2566 รายได้ 1,354.48 ล้านบาท  กำไร 134.53 ล้านบาท

สำหรับ ราคาหุ้น AHC วันที่ 4 ธ.ค.2566 ปิดที่ 17.80 บาท เพิ่มขึ้น +0.10 บาท หรือ 0.56% มูลค่าการซื้อขาย 474 ล้านบาท