HoonSmart.com>>เมย์แบงก์ กิมเอ็ง คาดปี 2568 กลุ่มบริการด้านเทคโนโลยี เติบโตจากการลงทุนของ 3 แบงก์ไร้สาขา + การลงทุนภาครัฐ ดันกำไร SKY โต 56% BBIK โต 30% เหตุได้ประโยชน์สูงสุด
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มีมุมมองเชิงบวกต่อภาคธุรกิจบริการด้านเทคโนโลยี (Tech Services) ปี 2568 ที่จะเกิดจาก 2 ปัจจัยขับเคลื่อนหลัก คือ
1.การลงทุนด้านไอทีของรัฐบาลจะเพิ่มขึ้นในปี 2568E หลังจากเกิดความล่าช้าของโครงการจากปี 2567 และงบลงทุนในปีนี้ที่สูงขึ้น +9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ของรัฐบาล (ตุลาคม พ.ศ. 2567 -กันยายน พ.ศ. 2568) โดยผู้ได้รับประโยชน์ คือ SKY ที่ให้บริการ ฐานข้อมูล การติดตั้งระบบ CCTV และ USO net และแพลตฟอร์มอื่นๆ และ BE8 ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม CRM ความปลอลอดภัยไซเบอร์ และซอฟต์แวร์
2. ธนาคารเสมือนจริง (Virtual banks) หรือธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา 3 แห่ง จะเริ่มลงทุนในช่วงกลางปี 2568 คาดว่าจะใช้เงินลงทุน ประมาณ 3,000-5,700 ล้านบาท และจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงกลาง 2569 โดยมองว่าบริษัทที่จะได้รับประโยขน์ คือ BBIK และ BE8 เพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมธนาคารเสมือนจริง โดย BBIK สามารถพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ การพัฒนาแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ และการบริหารจัดการ ด้านบริษัท BE8 สามารถให้บริการแพลตฟอร์มการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) บริการความปลอดภัยไซเบอร์ และซอฟต์แวร์สำเร็จรูป
ทั้งนี้ คาดว่าเฉพาะโครงการลงทุนธนาคารเสมือนจริงเพียงอย่างเดียว จะส่งผลให้รายได้ของ BBIK ในปี 2568 เติบโต 6%-11% และ รายได้ BE8 เติบโต 4%
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะนำ หรือ Top Picks ที่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด คือ SKY และ BBIK
โดยหุ้น SKY เป็น Top Pick แรกในกลุ่มบริการเทคโนโลยี เพราะมองว่าเป็นผู้รับประโยชน์หลักจากการเพิ่มขึ้นของผู้โดยสารในสนามบินและการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายด้านไอทีของรัฐบาล คาดการณ์ว่า ปี 2567E กำไรหลักจะเติบโต 61% และปี 2568E จะเติบโต 56% และเพิ่ม TP สำหรับ SKY เป็น 30.1 บาท จาก 29.4 บาท เนื่องจากมีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีบัญชี 2568E หรือ P/E ของ SKY เป็น 15 เท่า จาก 12 เท่า
ด้านหุ้น BBIK เป็น Top Pick ลำดับที่ 2 จากการคาดการณ์กำไรหลัก ปี 2568E จะมีการเติบโต 30% ผลจากการลงทุนของธนาคารเสมือนจริง การย้ายระบบคลาวด์ (เริ่มจากสถาบันการเงินขนาดใหญ่) และส่วนแบ่งทางการตลาดจาก
ฝผู้เล่นระดับโลก