HoonSmart.com>>3 ตลาดหุ้นสหรัฐวันแรกของปีนี้พุ่งขึ้น ดาวโจนส์บวก 339 จุด แรงซื้อหุ้นเทคโนโลยี ธีม AI บอนด์ยีลด์สหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นแตะ 4.6% ด้านตลาดหุ้นยุโรปลดลง นำโดยสินค้าหรูและบริษัทผลิตสุราชั้นนำ ส่วนราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 3 ม.ค. 2568 ซึ่งเป็นซื้อขายแรกของปีปิดที่ 42,732.13 จุด เพิ่มขึ้น 339.86 จุด หรือ +0.80% นำโดยกลุ่มหุ้นผลิตชิปทั้ง Nvidia และ Tesla ที่ฟื้นตัว ส่งผลให้ทั้งสามดัชนีหลักเข้าแดนบวกจากที่ปรับลงติดต่อกัน 5 วันก่อน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับมูลค่าหุ้นที่สูงและความคาดหวังต่อการลดอัตราดอกเบี้ยที่น้อยนั้นได้หมดไป
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,942.47 จุด เพิ่มขึ้น 73.92 จุด, +1.26%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,621.68 จุด เพิ่มขึ้น 340.88 จุด, +1.77%
ตลาดปรับขึ้นเป็นวงกว้าง หุ้นแต่ละกลุ่มในดัชนี S&P 500 ปรับเพิ่มขึ้น กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มขึ้น 2.42% แต่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับขึ้นโดดเด่นหุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 4.7% ขณะที่หุ้น Super Micro Computer ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์เพิ่มขึ้น 10.9% นอกจากนี้หุ้นที่มองว่าอาจได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายด้านปัญญาประดิษฐ์อย่างต่อเนื่องก็เพิ่มขึ้น โดยหุ้น Constellation Energy และหุ้น Vistra เพิ่มขึ้น 4% และ 8.5% ตามลำดับ
หุ้น Microsoft เพิ่มขึ้น 1.1% หลังบริษัทประกาศแผนลงทุน 8 หมื่นล้านดอลลาร์ ในศูนย์ข้อมูลที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ภายในปีงบการเงิน 2024
หุ้น Alphabet หุ้นAmazon หุ้นMeta Platforms และหุ้น Broadcom ก็ปรับขึ้นเช่นกัน แต่หุ้น Apple ลดลง 0.2%
นักกลยุทธ์ของเจพี มอร์แกน บอกกับลูกค้าว่า ตราบใดที่นักลงทุนรายย่อยยังคงทุ่มเงินให้กับธีม AI การปรับขึ้นของตลาดที่นำ โดย AI ก็มีแนวโน้มที่จะไปต่อเนื่อง
ตลาดยังมีมุมมองทางบวก แม้หุ้น U.S. Steel จะลดลง 6.5% หลังจากที่ประธานาธิบดี Biden ระงับข้อเสนอของหุ้นของบริษัทให้กับ Nippon Steel ของญี่ปุ่น โดยให้เหตุผลถึงความมั่นคงของชาติ ทำให้นักลงทุนได้เห็นภาพถึงการกีดกันทางการค้าของสหรัฐที่มากขึ้นเรื่อยๆ ที่มีผลต่อการลงทุนจากต่างประเทศ
หุ้นแตะระดับสูงสุดในช่วงบ่าย จากการที่ ไมค์ จอห์นสัน ได้รับเลือกเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง บ่งชี้ว่าพรรครีพับลิกันจะสามารถเป็นหนึ่งเดียวกันในการสนับสนุนวาระการผ่อนคลายกฎระเบียบที่เป็นมิตรต่อธุรกิจของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับขึ้นแตะ 4.6% หลังจากที่โทมัส บาร์คิน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า เขาอยากที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้นานขึ้น แม้เศรษฐกิจยังคงสถานการณที่ดี แต่มีความไม่แน่นอนหลายระดับรออยู่ข้างหน้า ทั้งนโยบายการคลัง และภาษีนำเข้าซึ่งไม่มีใครรู้ว่าทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นอย่างไร ดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดที่จะให้เวลาและเรียนรู้กันไป
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่รายงาน ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนธ.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) ที่เพิ่มขึ้นมาที่ 49.3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2023 และสูงกว่า 48.4 ที่นักวิเคราะห์คาด แต่ดัชนียังคงต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัว และเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9
ทางด้านตลาดยุโรปปิดลบ โดยบริษัทสินค้าหรูและบริษัทผลิตสุราชั้นนำร่วงลง แม้ความสนใจมุ่งไปที่ข้อมูลทางเศรษฐกิจเพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยและการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในนโยบายของสหรัฐฯ ภายใต้การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
หุ้นกลุ่มที่มีตลาดในจีน เช่น เหมืองแร่ สินค้าฟุ่มเฟือย และผู้ผลิตรถยนต์ ตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน แม้เจ้าหน้าที่ทางการจีนกล่าวว่า จะระดมเงินทุนอย่างรวดเร็วจากพันธบัตรรัฐบาลที่มีระยะเวลายาวนานเป็นพิเศษในปี 2025 เพื่อกระตุ้นการลงทุนทางธุรกิจและมีความคิดริเริ่มในการกระตุ้นผู้บริโภค
นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของจีนและสงครามการค้าที่กำลังจะเกิดขึ้นกับสหรัฐฯ ก่อนการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ในวันที่ 20 ม.ค.นี้
ตลาดหุ้นฝรั่งเศสซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทสินค้าหรูชั้นนำของยุโรปส่วนใหญ่ ร่วงลง 1.5% ซึ่งเป็นการลดลงวันเดียวครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 7 สัปดาห์
หุ้น Stellantis ที่จดทะเบียนในอิตาลี ลดลง 3.5% หลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าการผลิตรถยนต์ของบริษัทลดลง 37% ในปีที่แล้ว และยอดขายในเดือนธันวาคมลดลงด้วย
หุ้นบริษัทผลิตสุราและบริษัทผลิตเบียร์ในยุโรปพากันร่วง หลังจากแพทย์ใหญ่ (U.S. surgeon general )ของสหรัฐฯเตือนถึงความเชื่อมโยงกันระหว่างการดื่มแอลกอฮอล์และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการเกิดมะเร็ง และเรียกร้องให้มีคำเตือนเรื่องมะเร็งบนฉลากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
หุ้น Campari ลดลง 5.2% หุ้น Anheuser-Busch InBev ผู้ผลิตเบียร์ Budweiser ลดลง 2.8%
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 508.19 จุด ลดลง 2.48 จุด, -0.49%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,223.98 จุด ลดลง 36.11 จุด, -0.44%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,282.22 จุด ลดลง 111.54 จุด, -1.51%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 19,906.08 จุด ลดลง 118.58 จุด, -0.59%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 83 เซนต์ หรือ 1.13% ปิดที่ 73.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น 58 เซนต์ หรือ 0.76% ปิดที่ 76.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล