นับหนึ่งฟ้องคดีแบบกลุ่ม ตอน กรณีศึกษา Enron ศาลให้นักลงทุนชนะ

HoonSmart.com>>เปิดกรณีศึกษานักลงทุนชนะการฟ้องร้องคดีแบบกลุ่ม Enron ต้องจ่ายเงินชดเชย 7.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สูงสุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา

ดร. ธรรมนูญ อานันโทไทย ผู้เชี่ยวชาญตลาดเงินตลาดทุน ที่อยู่ในวงการตลาดทุนมากกว่า 35 ปีและมีการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือ IPO กว่า 19 บริษัทมูลค่ากว่า 200,000 ล้านบาท ได้ยกตัวอย่าง กรณีศึกษาการฟ้องคดีแบบกลุ่มหรือ Class Action บริษัท Enron Corporation หนึ่งในยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานในประเทศสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนมีมูลค่าทางการตลาดรวม หรือ มาร์เก็ตแคป ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) สหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะเกิดเรื่องถูกกลุ่มนักลงทุนและผู้ถือหุ้นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายช่วงการลงทุนระหว่าง 9 ก.ย.2540-2 ธ.ค.2544

ในปี 2551 ศาล โดย Judge Melinda H. ได้ตัดสินให้ Enron จ่ายเงินชดเชย 7.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ แก่ผู้เสียหายที่เป็นนักลงทุนประมาณ 1.5 ล้านคน มูลค่าเงินชดเชย คิดเป็น 11% ของมาร์เก็ตแคป ก่อนที่จะล้มละลายอยู่ที่ 62 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ราคาอยู่ที่ 83 เหรียญสหรัฐฯต่อหุ้น P/E อยู่ที่ 71 เท่า

ทั้งนี้ นักลงทุนถือหุ้นบุริมสิทธิ หรือ Prefeered Share ได้รับการชดเชยหุ้นละ 168.5 เหรียญฯสหรัฐฯต่อหุ้น เพราะมีมีสิทธิเหนือกว่าหุ้นสามัญ และยังถูกกำหนดด้วยอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาดังกล่าว ส่วนนักลงทุนที่ถือหุ้นสามัญได้รับคนละ 6.79 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น

ในไทยเราไม่ค่อยมีผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิมากนัก คนที่รู้ดีจะใช้หุ้นบุริมสิทธิมาไว้ป้องกันการถูกเทคโอเวอร์ เพราะ 1 หุ้นบุริมสิทธิ นับได้ 5 เสียง แต่ไม่มีสิทธิออกเสียงในการบริหาร ก็จะใช้ไปในมุมของการควบคุมการออกเสียงมากกว่า แต่ในสหรัฐอเมริกาถือว่าได้รับความนิยม เพราะสิทธิเหนือกว่าและก็ได้ผลตอบแทนที่มากกว่าหุ้นสามัญ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าตลาดไหนดีกว่ากันนะ เพราะสภาพไม่เหมือนกัน

นี่คือกรณีการฟ้องร้องคดีแบบกลุ่ม หรือ Class Action ที่มีมูลค่าสูงที่สุดที่เกิดขึ้นจริงที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ คดีดังกล่าวถือว่าเป็นคดีฟ้องร้องที่ใหญ่ที่สุด หลังจากที่ Enron ถูกเปิดเผยว่ามีการรายงานข้อมูลทางการเงินที่ไม่ถูกต้องและมีการปกปิดหนี้สินมหาศาลทำให้นักลงทุนเข้าใจผิด