บล.เอเซียพลัส คัด 4 กลุ่มเด่น ชี้เป้า 7 หุ้นเด่นน่าลงทุน ม.ค.68

HoonSmart.com>>บล.เอเซีย พลัส เปิดกลยุทธ์การลงทุนเดือนม.ค.68 แนะนำ 4 กลุ่ม 7 หุ้น น่าลงทุน ฝ่าแรงขาย LTF ทะลัก 2.3 แสนล้านบาท

บล.เอเซียพลัส ระบุ กลยุทธ์การลงทุนเดือนมกราคม 2568 แนะนำหุ้นเด่นน่าลงทุนใน 4 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มหุ้นผันผวนต่ำ ได้แก่ AOT, BEM กลุ่มหุ้นปันผลสูง BBL, SIRI กลุ่มหุ้นรับกระแสกระตุ้นเศรษฐกิจ ADVICE, BJC และหุ้นยุค TRUMP 2.0

ในมุมเงินทุนไหลเข้า หรือ Fund Flow ต้นปี 2568 ตลาดหุ้นอาจเผชิญแรงกดดันจากเม็ดเงิน LTF ที่พร้อมขายได้สูงขึ้นเป็น 2.3 แสนล้านบาท สูงกว่าต้นปีก่อนที่ 1.6 แสนล้านบาท ราว 43% โดยคาดว่าจะเห็นแรงขายออกมาในเดือนมกราคม 2568 เป็น 1.5 ถึง 20,000 ล้านบาทสูงกว่าเดือนมกราคมปีอื่นๆ ขณะที่แรงซื้อเข้ากองทุน THAIESG ชดเชยไม่พอ

ส่วนเม็ดเงินต่างชาติ มีโอกาสชะลอช่วงสั้นๆnเนื่องจากนักลงทุนอยู่ในช่วงรอดูนโยบาย ทรัมป์ 2 และหากเทียบเพียงยุค ทรัมป์ 1 ปี 2561 ที่มีประเด็นสงครามการค้าเป็นปีที่ต่างชาติขายหุ้นไทยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 2.87 แสนล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีแรงกดดันจากการทยอยปรับลด EPS68F ที่ BLOOMBERG และประเมิน EPS68F ที่ 98.5 บาทต่อหุ้นเทียบเท่ากำไร 1.2 ล้านล้านบาทต่อปี เฉลี่ยต่อไตรมาส 3 แสนล้านบาท ถือว่าเกิดขึ้นได้ยากเพราะสูงกว่ากำไรระดับปกติไตรมาสละ 2.5 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะสร้างความผันผวนได้

อย่างไรก็ตาม SET ย่อตัวลงมาอาจมีจังหวะรีบาวด์ได้บ้างจากความคาดหวังการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 4 ปี 2567 ที่น่าจะเติบโตทั้งรายไตรมาสและรายปีจากฐานที่ต่ำ โดยงวดไตรมาส 4 ปี 2566 อยู่ที่ 1.7 แสนล้านบาทและกำไรงวดไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 1.9 แสนล้านบาท

ในมุม Valuation เบื้องต้นฝ่ายวิจัยฯประเมินเป้าหมายดัชนีผ่าน EPS68F จาก BLOOMBERG consensus ที่ 98.5 บาทต่อหุ้นซึ่งอาจมีปรับตัวลดลง ในช่วง 3 เดือนแรกของปีที่มักถูกปรับลงเฉลี่ย -5.8 บาทต่อหุ้นจึงทำ Sentivitity ของเป้าหมายดัชนีปี 2568 อิง P/E ที่ 16.5 เท่าเมื่อคูณกับ EPS68F ระดับต่างๆจะได้เป้าหมายดัชนีในปี 2568 ที่ 1,490 ถึง 1,600 จุด