HoonSmart.com>>หุ้น MEDEZE พุ่ง 23.61% หลังผู้บริหารเก็บหุ้น-ราคาลงลึก ท่ามกลางแนวโน้มผลประกอบการที่ยังโตดีอยู่ อีกทั้งได้ปัจจัยบวกจากสาธารณสุข(สธ.)ยอมรับ”สเต็มเซลล์”เป็นยาภายใต้ ATMPs
วันที่ 30 ธ.ค. 2567 ราคาหุ้น MEDEZE พุ่งขึ้นแรงถึง 23.61 % มาที่ 8.90 บาท เพิ่มขึ้น 1.70 บาท มูลค่าซื้อขาย 450.54 ล้านบาท
นายถกล บรรจงรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้น บริษัท เมดีซ กรุ๊ป (MEDEZE) พุ่งแรง เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้ริหารได้เข้ามาซื้อหุ้น โดยล่าสุด น.ส.ดินิตา พิทักษ์เนติกุล กรรมการ MEDEZE ได้แจ้งซื้อหุ้น MEDEZE จำนวน 5 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 6.90 บาท มูลค่า 34.5 ล้านบาท และราคาหุ้นก็ได้ปรับตัวลงไปมากในช่วงก่อนหน้านี้ด้วย ขณะที่แนวโน้มผลดำเนินงานของบริษัทยังเติบโตดีอยู่ จึงคงแนะนำ”ซื้อ”หุ้น MEDEZE มูลค่าพื้นฐานปี 2568 ที่ 12.60 บาท
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2567 คาดทรงตัวเมื่อเทียบ QoQ แม้จะเข้า High Season รายได้มีโอกาสทุบสถิติสูงสุด แต่คาดมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายการตลาดขณะที่เทียบ YoY ยังเติบโตดีต่อเนื่อง โดยคงประมาณการกำไรปี 2567 ที่ 332 ล้านบาท (+39%YoY) โดยกำไรงวด 9 เดือนปี 2567 ที่ 240 ล้านบาท คิดเป็น 72% ของประมาณการกeไรทั้งปี สำหรับปี 2568-2569 คาดกำไร เติบโตเฉลี่ย 25%
MEDEZE เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทำให้ธุรกิจStem Cells ได้รับความสนใจในวงกว้างมากขึ้น
นอกจากนี้ MEDEZE ยังได้ปัจจัยบวกจากที่ประชุมวงการแพทย์และสาธารณสุขหัวข้อ “ผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (Advanced Therapy Medicinal Products: ATMPs) กับการส่งเสริมอุตสาหกรรมบริการสุขภาพ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพของประเทศไทย” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า ATMPs หรือนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง อาทิ ยีนบำบัด เซลล์บำบัด และการวิศวกรรมเนื้อเยื่อ ได้รับการยอมรับว่าเป็นยาภายใต้ประกาศของ รมว.สาธารณสุข
ด้าน ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี กรรมการแพทยสภา ระบุว่า แพทยสภา พร้อมส่งเสริม ATMPs และงานวิจัยด้านสเต็มเซลล์เต็มที่ ไม่ได้ขัดขวางการวิจัยเรื่องสเต็มเซลล์แต่อย่างใด เพื่อให้วงการแพทย์มีการพัฒนาและก้าวหน้าต่อไป
พญ.อรพรรณ์ เมธาดิลกกุล อดีตผู้อำนวยการสำนักกฎหมายการแพทย์ กรมการแพทย์ ปัจจุบันเป็นหัวหน้ากลุ่มแพทย์ชื่อกลุ่มเพื่อแพทย์ลงสมัครกรรมการแพทยสภา กล่าวว่า ถึงเวลาที่ประเทศไทยต้องก้าวหน้าทางการแพทย์ เช่น สเต็มเซลล์ ที่ทั่วโลกมีผลวิจัยว่าใช้ได้จริงในโรคที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลและให้คำปรึกษา ดังนั้นประเทศไทยต้องยึดความเป็นอินเตอร์เนชันแนลในการกำหนดกฎหมายให้ออกมาเป็นมาตรฐานสากล
———————————————————————————————————————————————————–
