BEAUTY กำไร 329 ล้าน ลด 5% งวด 9 เดือนโต 5.7%

“บิวตี้ คอมมูนิตี้ ไตรมาส 3/61 กำไร 329 ล้านบาท ลดลง 5.46% จากงวดปีก่อน ผลกระทบทัวร์จีนลด รายได้เพิ่มแค่ 1.8% แต่ผลงานดีขึ้นจากไตรมาส 2/61 รายได้โต 26% ส่วน 9 เดือน กำไร 868 ล้านบาท เติบโต 5.7% คาดไตรมาส 4 สดใสหนุนทั้งปีตามเป้า

บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) มีกำไรสุทธิไตรมาส 3/2561 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2561 จำนวน 329 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.11 บาท ลดลง 5.46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 348 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.12 บาท ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2561 กำไรสุทธิ 868 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.29 บาท เพิ่มขึ้น 5.72% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 821 ล้านบาท

ในงวดไตรมาส 3/2561 บริษัทมีรายได้จากการขาย 1,078 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19 ล้านบาท หรือ 1.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนต้นทุนขายมีจำนวน 402 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีจำนวน 346 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรขั้นต้น 676 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีจำนวน 712 ล้านบาท

นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ เปิดเผยว่า งวด 9 เดือน ปี 61 มีรายได้รวม 2,844.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 204.66 ล้านบาท หรือ 7.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและกำไรสุทธิ 867.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.72 ล้านบาท หรือ 5.7 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทยังเติบโตต่อเนื่อง จากการที่ผลิตภัณฑ์ได้รับความนิยมจากลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติ มีการพัฒนาสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ออกจำหน่าย ประกอบกับบริษัทได้มีการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทุกช่องทาง ส่งผลให้ยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะช่องทางต่างประเทศ ในส่วนของ Cross Border E-Commerce มียอดขายเพิ่มขึ้น 150 % ขณะที่ยอดขายต่อสาขาเดิม (Same Store Sales Growth ) มีอัตราการเติบโตลดลง 0.50% เนื่องจากมียอดซื้อจากกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวลดลง

ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3/2561 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,081.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/61 และเพิ่มขึ้น 1.6% ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,064.55 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 328.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/61 และลดลงเล็กน้อย 5.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 348.20 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลง

สำหรับแนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ เชื่อว่าจะสามารถเติบโตต่อเนื่อง เข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจ อีกทั้งยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐในการกระตุ้นยอดนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมาคึกคักในช่วงเดือน ธ.ค. 61 ซึ่งบริษัทจะเดินหน้าทำการตลาดอย่างเต็มรูปแบบ ทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อเข้าถึงลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงขยายช่องทางด้านสินค้าคอนซูเมอร์ในช่องทางโมเดรินด์เทรด เพิ่มขึ้น ออกโปรโมชั่นต่างๆจัดกิจกรรมกับลูกค้าสมาชิก เพื่อกระตุ้นยอดขาย

นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งเน้นการเร่งยอดขายในตลาดต่างประเทศให้เติบโตสูงขึ้น โดยใช้กลยุทธ์ขยายช่องทางการจำหน่ายทาง Cross-border e-commerce ซึ่งจะเตรียมเข้าจำหน่ายเพิ่ม 4 แพลตฟอร์มไตรมาส 4/61 จากเดิมมีจำหน่ายในช่องทางดังกล่าวอยู่แล้ว 5 แพลตฟอร์ม ประกอบด้วย TMALL KAOLA VIP YUNJI และ JD ปัจจุบันบริษัทได้รับการจดทะเบียน CFDA จำนวน 4 รายการสินค้าเรียบร้อยแล้วเพื่อเตรียมความพร้อมในการขยายตลาดในประเทศจีน โดยทั้งนี้มั่นใจว่ารายได้รวมปี 2561 จะเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนสาขาในประเทศทั้งสิ้น 347 สาขา แบ่งเป็น BEAUTY BUFFET 264 สาขา BEAUTY COTTAGE 76 สาขา BEAUTY MARKET 7 สาขาอีกทั้งยังมีจุดขาย ณ คิง พาวเวอร์ 8 สาขา 22 จุดจำหน่าย และวางจำหน่ายสินค้าผ่านร้าน 7-ELEVEN จำนวน 650 สาขา

ส่วนตลาดต่างประเทศ ปัจจุบันจำนวนสาขาที่เป็น Shop License มีทั้งสิ้น 12 สาขา ส่วนสาขาที่เป็นรูปแบบ Product distributor มีอยู่ใน 4 ประเทศ รวม 131 จุดจำหน่าย ประกอบด้วย ฮ่องกง 95 จุดจำหน่าย และเริ่มมีการวางจำหน่ายในร้าน SASA เต็มทุกสาขา อินโดนีเซีย 15 จุดจำหน่าย ไต้หวัน 19 จุดจำหน่าย และมาเลเซีย 2 จุดจำหน่าย ในรูปแบบ Counter Sales จำนวน 2 ประเทศ 13 จุดจำหน่าย ประกอบด้วยพม่า 8 จุดจำหน่าย และลาว 5 จุดจำหน่าย ซึ่งทุกแห่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี

นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเมื่อวันที่ 12 พ.ย2561 อนุมัติต่อสัญญาเช่าที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้างจากกรรมการของบริษัท คือ นางธัญญาภรณ์ ไกรภูเบศ ขนาดพื้นที่ 203.50 ตารางวา โฉนดเลขที่ 54798 ซึ่งกำลังจะหมดสัญญาเช่าในวันที่ 31 ธ.ค.2561 เพื่อใช้คลังเก็บสินค้า ห้องประชุมสำหรับประชุมทั้งภายในและภายนอกบริษัท ใช้เป็นที่จอดรถของพนักงาน ใช้เป็นลานกีฬาและกิจกรรมสันทนาการต่างๆ ของบริษัท โดยราคาเช่าเป็นไปตามราคาที่ประเมินโดยผู้ประเมินอิสระ เช่าเดือนละ 30,450 บาท จากสัญญาเช่าปัจจุบันเดือนละ 29,000 บาทต่อเดือน อาสุสัญญา 3 ปี ตั้งแต่ 1 ม.ค.2562-31 ธ.ค.2564 ค่าเช่าตลอดอายุสัญญา 1,096,200 บาท เงินมัดจำค่าเช่า 87,000 บาท