SCM ฟลอร์ 4 วันซ้อน สังเวย Z.com ฟอร์ซเซล วันนี้ฟื้น บิ๊กฮึดสู้ปี 68 รุกขยายตลาดตปท.

HoonSmart.com>>หุ้น SCM ฟลอร์ 4 วันซ้อน ก่อนฟื้นตัวเช้านี้ สังเวย Z.com ยุติการให้บริการบัญชีมาร์จิ้น บังคับขาย (ฟอร์ซเซล) หุ้นทิ้งทุกราคา ส่งโบรกฯอื่นผสมโรงทิ้งตาม เสียหายหนัก ทั้งนี้”นพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร” ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อื่น คงถือหุ้น SCM กว่า 30% การบริหารงานยังดำเนินต่อไป ยอมรับยอดขายปีนี้แย่  จากเศรษฐกิจไม่ดี-ผลิตภัณฑ์อาหรเสริมเกิดขึ้นเยอะ กรณี”ดิไอคอน”ก็กระทบบ้าง ลั่นปี 68 ตั้งเป้าสร้างผลงานเติบโตขยายธุรกิจไปตลาดต่างประเทศ เล็งเวียดนาม-อินโดนีเซีย ก่อน

เมื่อเวลา 10.45 น.หุ้น SCM ฟื้นขึ้น 3.41% มาที่ 0.91 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท มูลค่าซื้อขาย 587.64 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.77 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 0.92 บาท และต่ำสุด 0.77 บาท  หลังจากดิ่งฟลอร์ 4 วันทำการ

26 ธ.ค.หุ้น SCM ฟลอร์ 30.16% ปิดที่ 0.88 บาท ลดลง 0.38 บาท
25 ธ.ค.หุ้น SCM ฟลอร์ 30.39% ปิดที่ 1.26 บาท ลดลง 0.55 บาท
24 ธ.ค.หุ้น SCM ฟลอร์ 30.38% ปิดที่ 1.81 บาท ลดลง 0.79 บาท
23 ธ.ค.หุ้น SCM ฟลอร์ 30.11% ปิดที่ 2.60 บาท ลดลง 1.12 บาท

นายสิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ รองประธานกรรมการ บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ (SCM) เปิดเผยกับ”หุ้นสมาร์ท”ว่า ราคาหุ้น SCM ร่วงฟลอร์มา 4 วันซ้อน เป็นผลจากบริษัทหลักทรัพย์จีเอ็มโอ-แซคคอม (ประเทศไทย) หรือ Z.com ได้ยุติการให้บริการบัญชีมาร์จิ้น และได้มีการบังคับขายหุ้น SCM ออกมาทั้งหมด โดยขายในทุกราคา ส่งผลให้บริษัทหลักทรัพย์อื่นที่มีหุ้น SCM เมื่อเห็นราคาร่วงก็ผสมโรงขายออกมาด้วย ทำให้ราคาหุ้น SCM ฟลอร์ต่อเนื่องมาหลายวัน เพราะโบรกฯอื่นก็บังคับขายหุ้น SCM ตามด้วยเช่นกัน

“Z.com ปิดบัญชีมาร์จิ้น ทำให้ต้องถูกบังคับขายหุ้น SCM ออกมา ซึ่งขายในทุกราคา พอราคาร่วงฟลอร์ บริษัทหลักทรัพย์อื่นขายตามมากอีก ทำให้เกิดความเสียหายเกิดขึ้น อย่างไรก็ดี “นพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร” และผู้ถือหุ้นรายใหญ่อื่น ยังคงสัดส่วนการถือหุ้น SCM มากกว่า 30% หุ้นทั้งหมด ซึ่งยังคงบริหารงานต่อเนื่องไป ส่วนผมไม่ทิ้ง SCM เพราะสร้างมากับตัว”

สำหรับผลดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ยอมรับว่าไม่ดี ยอดขายตกลงจริง เป็นผลจากเศรษฐกิจในประเทศไม่ดี และยังมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหลายอย่างเข้ามาในตลาดมากขึ้น การแข่งขันในตลาดจึงสูง รวมถึงกรณีของ”ดิไอคอน”ก็มีผลกระทบบ้าง อย่างไรก็ดี ปี 2568 บริษัทได้ตั้งเป้าที่จะสร้างผลงานให้มีการเติบโต ด้วยการขยายธุรกิจออกไปนอกประเทศ โดยคาดว่าจะไปขยายตลาดที่ประเทศเวียดนาม และอินโดนีเซีย ก่อน