ก.ล.ต.คุยโบรกฯ ไร้มาตรการ บล.ฝรั่งยอมรับมีเน็กเก็ตชอร์ต

HoonSmart.com>>หุ้นไทยไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ก.ล.ต.หารือบริษัทหลักทรัพย์ ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม  ด้านบล.เสนอ 4 แนวทางแก้ปัญหาเน็กเก็ตชอร์ต หากคุมไม่ได้ ควรปล่อยให้หักกลบระหว่างวัน สร้างความเท่าเทียม อึ้ง! 1 ในตัวแทนโบรกเกอร์ต่างชาติ ยอมรับ คัสโตเดี้ยนให้ข้อมูลการขายหุ้นของลูกค้าน้อยกว่าที่ขายจริง (ไม่มีหุ้นในพอร์ต) ด้าน ก.ล.ต.เรียกร้องให้บล.ทุกแห่งเปิดเผยอัตราค่าคอมมิชชั่น เจอค้าน!เป็นความลับทางธุรกิจ  วันนี้ ดัชนีหุ้นลงต่อ -10 จุด ก่อนเด้งเหลือ -4 จุด ได้แรงซื้อกลุ่มแบงก์ช่วย ต่างชาติพลิกซื้อ 613 ล้านบาท โปรแกรมเทรดซื้อสุทธิ 1,037.46 ล้านบาท

นาง พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์( ก.ล.ต.) นั่งหัวโต๊ะในการประชุมร่วมกับสมาชิกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) เริ่มเวลาประมาณ 09.00 น. แล้วเสร็จประมาณ 11.00 น. โดยก.ล.ต.ได้มีการชี้แจงมาตรการกำกับดูแลการทำชอร์ตเซล และห้ามขายหุ้นโดยไม่มีใบหุ้น (เน็กเก็ตชอร์ต) ในโอกาสนี้ ก.ล.ต.ได้ขอข้อมูลและความเห็นจากบล.แต่ละแห่ง ถึงมาตรการต่าง ๆ ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพื่อนำไปปรับปรุงเกณฑ์ให้รัดกุมมากขึ้น

ทั้งนี้ในการประชุมร่วมกัน มีตัวแทนของบริษัทหลักทรัพย์ต่างประเทศรายหนึ่ง ได้ให้ข้อมูลว่า พบปัญหาจากคัสโตเดี้ยน สรุปข้อมูลการขายหุ้นของลูกค้า น้อยกว่าที่ทำการขายจริง โดยไม่ทราบว่าข้อมูลนี้เป็นหนึ่งในวิธีการทำเน็กเก็ตชอร์ต

นอกจากนี้ ในการหารือครั้งนี้ มีบริษัหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง เสนอ 4 แนวทางในการแก้ปัญหาเน็กเก็ตชอร์ต ได้แก่ 1.1 .ให้ลูกค้าทุกราย ต้องฝากหุ้นกับ บล.ก่อนขาย
2.ให้ TSD ในฐานะนายทะเบียน เก็บข้อมูลการถือหุ้นของลูกค้ารายบุคคล/คัสโตเดี้ยนแต่ละแห่ง จากปัจจุบันเก็บเป็นยอดรวมของบริษัทหลักทรัพย์  3. ลูกค้าที่ต้องการหักกลบจำนวนหุ้นที่ซื้อขาย จะต้องมีหุ้นมาฝากไว้ก่อน 4 . เปิดให้มีการทำ ” เน็กเก็ตชอร์ตระหว่างวัน” สำหรับนักลงทุนทุกคน กำหนดเงื่อนไข เปอรืเซนต์ของหุ้นที่ให้ทำในแต่ละวันตามปริมาณหุ้นหมุนเวียน อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมยังไม่มีข้อสรุปแต่ละอย่างใด

ขณะเดียวกันก.ล.ต. ได้หยิบยกเรื่องการคิดค่าคอมมิชชั่นในการซื้อขายหุ้นมาหารือด้วย โดยเสนอให้บล.ทุกแห่งเปิดอัตราที่คิดจากลูกค้า เพื่อสร้างความเท่าเทียมในกลุ่มลูกค้า แต่บล.ไม่เห็นด้วย เนื่องจากเป็นความลับทางธุรกิจ และเกรงว่าหากเปิดเผยข้อมูลออกไป จะทำให้ลูกค้าหายไป  ปัจจุบันลูกค้ารายใหญ่จ่ายค่าคอมมิชชั่นต่ำ บางรายจ่ายเหมาว่าวันละ 5,000-10,000 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนออเดอร์

ด้านตลาดหุ้นไทย วันแรกของสัปดาห์(27  พ.ย.2566) ดัชนียังคงไหลลงแรงต่อเนื่อง ระหว่างวันร่วงลงไปกว่า 12 จุด ก่อนตีกลับแรงในช่วงบ่าย ปิดตลาดที่ 1,393.42 จุด ลดลง 4.01 จุด หรือ -0.29% มูลค่าการซื้อขาย 36,302.87 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาซื้อสุทธิ 613.27 ล้านบาท

สาเหตุที่ตลาดหุ้นฟื้นตัวเร็ว เกิดจากแรงซื้อหุ้นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่  เช่น KBANK และ SCB  รวมถึงการตีกลับของหุ้น DELTA  ระหว่างวันลงไปต่ำสุดแตะ 78.50 บาท เด้งขึ้นมาปิดที่ 80 บาท ติดลบเพียง 0.25 บาท  ขณะที่ยังคงมีแรงขายหุ้น AOT ออกมา ราคาปิดที่ 61 บาท ร่วลง 1.50 บาทหรือ -2.40% ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 3,960 ล้านบาท  ได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวหลังสายการบินจีนยกเลิกเที่ยวบินเข้าไทยราว 40% รวมถึงหุ้นกลุ่มพลังงานลดลงตาม ราคาน้ำมันดิบเพื่อรอผลการประชุม OPEC+

ส่วนโปรแกรมเทรด ยังคงมีการใช้อย่างหนาแน่น ซื้อมูลค่า 17,172.37 ล้านบาท และขายจำนวน 16,134.90 ล้านบาท มียอดซื้อสุทธิ 1,037.46  ล้านบาท หุ้นที่มีการซื้อขายมากผิดปกติ ยังคงเป็นหุ้นขนาดกลางและเล็ก วันนี้นำโดย PSL มียอดซื้อขายถึง  140 ล้านบาท คิดเป็น 45.9% ของการซื้อขายในตลาดปกติ  ส่วน JKN  ราคาซิลลิ่ง ปิดที่ 0.66 บาท มีการใช้โปรแกรมเทรดเพียง 1.6 ล้านบาทเท่านั้น