HoonSmart.com >> บล.CGSI คาดการณ์ตลาดหุ้นไทย ปรับตัวตามตลาดหุ้นโลก SET Index เคลื่อนไหวในกรอบ 1,385-1,410 จุด แรงหนุนของเม็ดเงินลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี และ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการประกาศ SET50/SET100 รอบ 1H25
บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI สรุปภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ และทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ (19 ธ.ค.) โดย : Trend Spotter
• ตลาดหุ้นสหรัฐ :
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในแดนลบ โดยดัชนี DJIA ร่วงลงกว่า -1,123 จุด และ เป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 10 แม้ว่า FOMC จะมีมติ 11-1 เสียง ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25bp สู่ระดับ 4.25-4.50% สอดคล้องกับที่ตลาดคาด พร้อมระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงมีความไม่แน่นอน และ Fed ให้ความสำคัญต่อการบริหารความเสี่ยงทั้งด้านการจ้างงานและเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นภารกิจคู่ขนาน (Dual Mandate) ที่ต้องรักษาในระยะยาว เพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการจ้างงานสูงสุดและการรักษาอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับ 2%
อย่างไรก็ตาม จาก Fed Dot Plot นั้น ได้สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน (VIX พุ่งขึ้น 74% สูงสุดในรอบ 4 เดือน) หลังส่งสัญญาณการชะลอปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยจะลดเพียง 2 ครั้ง ครั้งละ 25bp รวมเป็น 50bp ในปี 2025 (vs. จากเดิม ในการประชุมเดือนก.ย. Fed ส่งสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ยลง 4 ครั้ง รวม 100bp)
อีกทั้ง Fed ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP สหรัฐฯ ขยายตัว 2.5% ในปี 2024, +2.1% ในปี 2025, +2.0% ในปี 2026 และ +1.9% ในปี 2027 (vs. จากเดิมคาดการณ์ว่าจะขยายตัว 2.0% ทุกปี)
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ Fed ได้ปรับเพิ่มตัวเลขอัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลางในระยะยาวสู่ระดับ 3.0% (vs. จากเดิม 2.9%)
ด้านนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed กล่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 นั้นจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเข้ามาใหม่ล่าสุด ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์ในปัจจุบัน พร้อมเน้นย้ำถึงการพิจารณาอัตราเงินเฟ้อและตลาดแรงงาน หากเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง Fed จะระมัดระวังมากขึ้นในการพิจารณาการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม
แนวโน้มการชะลอปรับลดดอกเบี้ยของ Fed ยังกดดันให้ราคาทองคำและบิตคอยน์ปรับตัวลดลงมา ในขณะที่ เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดย Dollar Index เพิ่มขึ้น 1% แตะระดับ 108.024 และ บอนด์ยีลด์สหรัฐ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 4.51% ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่ 31 พ.ค.
วันนี้ ติดตามการประชุมของ BoJ และ BoE ที่ตลาดคาดว่า จะมีมติ “คง” อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% และ 4.75% ตามลำดับ และ รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ อย่างดัชนีภาคการผลิตเดือนธ.ค.จากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย, GDP3Q24 และ ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย. รวมถึง จับตาการลงมติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวของสภาคองเกรสในวันพรุ่งนี้ (20 ธ.ค.) เนื่องจากหากไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภา จะส่งผลให้หน่วยงานของรัฐบาลต้องปิดดำเนินการ ตั้งแต่วันเสาร์นี้ (21 ธ.ค.)
• SET Index :
เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัวบริเวณ 1,385-1,410 จุด แม้ว่า Fed จะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสอดคล้องกับที่ตลาดคาด และ อาจเป็น Upside ต่อตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น แต่สัญญาณการชะลอปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ซึ่งผิดกับที่ตลาดคาดและดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น อาจเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้นไทย
อย่างไรก็ตาม เรามองว่า SET สามารถยืนเหนือ 1,385 จุดได้ จากแรงสนับสนุนของเม็ดเงินลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี และ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการประกาศ SET50/SET100 รอบ 1H25 โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวานนี้ (18 ธ.ค.)
• หุ้นแนะนำ
BBL : BBL เป็นหนึ่งธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของไทยด้านมูลค่าสินทรัพย์ใน 3Q24 ขณะที่ธนาคารได้ปล่อยเงินกู้ให้กับการบินไทยรวม 1.19 หมื่นล้านบาทตามข้อมูล ณ สิ้น 3Q24 ดังนั้นหากสินเชื่อของ THAI กลับมาเป็นสินเชื่อปกติ BBL จะมีอัตราส่วน NPL ลดลง 0.46% pt จาก 3.94% ใน 3Q24
(Take profit : 151.5 / Stop loss : 146.5)
BCH : ราคาของ BCH underperform ดัชนี SET และคู่แข่งอย่างมีนัยสำคัญ YTD เราจึงเชื่อว่าราคาหุ้นในปัจจุบันน่าจะสะท้อนความกังวลในหลายเรื่องทั้งการที่ผู้ป่วยชาวคูเวตกลับมาใช้บริการล่าช้าและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอัตราค่าบริการทางการแพทย์ของสปส. สำหรับการรักษาผู้ป่วยในด้วยโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง (Adj. RW>2) แล้ว
(Take profit : 16.6 / Stop loss : 15.4)
#MacroWealthResearch
#CGSInternational