ดาวโจนส์ปิดลบ 110 จุด จับตาเฟดประชุม

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดลบ 110 จุด จับตาการประชุมของเฟด  ตลาดคาดปรับลดลงในรอบนี้ และระงับในเดือนม.ค. ส่วนดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์  ด้านตลาดหุ้นยุโรปและราคาน้ำมันดิบลดลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 16 ธ.ค. 2567 ปิดที่ 43,717.48 จุด ลดลง 110.58 จุด หรือ -0.25% แต่ดัชนี S&P 500 ปรับขึ้นและดัชนี Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการปรับขึ้นของหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลง ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด และจับตาการประกาศนโยบายครั้งสุดท้ายของปีจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินแนวแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 6,074.08 จุด เพิ่มขึ้น 22.99 จุด, +0.38%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,173.89 จุด เพิ่มขึ้น 247.17 จุด, +1.24%

เครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่า เทรดเดอร์ให้น้ำหนัก 97% ที่การประชุมเฟดวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้จะปรับลดดอกเบี้ย แต่อาจจะระงับการปรับลดดอกเบี้ยชั่วคราวในเดือนม.ค.ที่จะถึงนี้

หุ้น Apple หุ้น Alphabet บริษัทแม่ของ Google หุ้น Tesla และหุ้น ผู้ผลิตชิปAI พากันวิ่งขึ้นไปที่ระดับ all-time highs ใหม่ โดยหุ้น Broadcom ซึ่งมูลค่าตลาดแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ก่อน นำการปรับขึ้นใน Nasdaq และปิดบวก 11% หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยในดัชนี S&P 500 ก็ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

หุ้น Nvidia สวนทางตลาดลดลง 1.7% และตกลงสู่การปรับฐาน หลังลดลงกว่า 10% จากระดับสูงสุด all-time high ในเดือนพฤศจิกายน

ตลาดปรับขึ้นก่อนเฟดจะเริ่มการประชุมนโยบายที่ใช้เวลา 2 วันในวันอังคาร ซึ่งเครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่ามีโอกาส 95.4% ที่จะปรับลด 0.25% ในช่วงสรุปการประชุมในวันพุธ ประเด็นสำคัญสำหรับนักลงทุนคือ การส่งสัญญาณ(forward guidance) เกี่ยวกับการดำเนินนโยบายในอนาคต และและรายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด หลังจากที่เฟดเริ่มผ่อนคลายนโยบายในเดือนกันยายนเป็นครั้งแรกในรอบสี่ปี

เจย์ วูดส์ หัวหน้านักกลยุทธ์ระดับโลกของ Freedom Capital Markets กล่าวว่า เป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้การตัดสินใจของเฟด และการแถลงข่าวทุกครั้งเป็นเรื่องใหญ่ แต่การประชุมครั้งสุดท้ายของปี 2024 นี้อาจเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่สุด นับตั้งแต่การปรับลดครั้งแรกในเดือนกันยายน ตัวเลขการว่างงานมีเสถียรภาพ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเงินเฟ้อได้ขยับไปในทางอื่นเล็กน้อย จริงๆ แล้วราคาก็เพิ่มขึ้นทุกเดือนตั้งแต่เริ่มมีการปรับลด ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเพราะเงินเฟ้อหนืด หรือเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่

แซฒ สโตวาล หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของ CFRA Research กล่าวว่า บางทีตลาดอาจมีการขายมากเกินไปเล็กน้อยในสัปดาห์ที่แล้ว และมีโอกาสเกือบ 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันพุธ คำถามเดียวที่โดดเด่นคือ คำพูดแบบไหน นักลงทุนจะได้รับในการส่งสัญญาน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยแบบการดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวดหมายความว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ก็จะพูดว่ายังคงขึ้นอยู่กับข้อมูล และผลที่ตามมาก็คือ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าอาจน้อยกว่าที่คาดกัน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนธันวาคม จากเอสแอนด์พี โกลบอล ที่ลดลงสู่ระดับ 48.3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จาก 49.7 ในเดือนพฤศจิกายน ดัชนี PMI ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตยังคงหดตัว

เฟดสาขานิวยอร์กรายงาน ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index)เดือนธันวาคมลดลงมาที่ +0.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2020 จาก +31.2 ในเดือนพฤศจิกายน

ในสัปดาห์นี้ยังมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอีกหลายชุดได้แก่ยอดค้าปลีกเดือนพฤศจิกายน จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพฤศจิกายน

ตลาดยุโรปปิดลบ จากการปรับลงของหุ้นสินค้าฟุ่มเฟือยและพลังงานรายใหญ่ หลังจากข้อมูลของจีนน่าผิดหวัง และตลาดหุ้นฝรั่งเศสอ่อนตัวลงหลังจากการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ Moody’s

ดัชนี STOXX 600 ซื้อขายใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ โดยรถยนต์เป็นกลุ่มที่ลดลงมากสุดถึง 2.8%

บริษัทสินค้าหรูที่มีตลาดในจีน เช่น LVMH ลดลงกว่า 1% หลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าการเติบโตของยอดค้าปลีกของจีนชะลอตัว
ราคาน้ำมันดิบที่ลดลงส่งผลให้กลุ่มพลังงานลดลง 1% แต่การปรับขึ้น 1.1%ของกลุ่มเฮลธ์แคร์ช่วยไม่ให้ตลาดลดลงมาก

ดัชนีหุ้นบลูชิป CAC 40 ของฝรั่งเศสร่วงลง 0.7% หลังจากที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Moody’s ปรับลดอันดับเครดิตของฝรั่งเศสอย่างกะทันหันเมื่อวันศุกร์เป็น “Aa3” จาก “Aa2” โดยมีแนวโน้มมีเสถียรภาพ ซึ่งการปรับลดอันดับเครดิตมีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง เสนอชื่อ ฟรองซัวส์ บายรู อดีตพรรคสายกลางเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ในปีนี้

ในเยอรมนี รัฐสภายอมรับคำขอของนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ที่จะถอนญัตติการลดคะแนนไม่ไว้วางใจในตัวนายกฯและรัฐบาล
ผลสำรวจเผยให้เห็นภาวะเศรษฐกิจตกต่ำของเยอรมนีดีขึ้นลงเล็กน้อยในเดือนธันวาคม แต่กิจกรรมทางธุรกิจยังคงหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ขณะที่ภาคบริการของฝรั่งเศสหดตัวลงอีก

โดยรวมแล้ว กิจกรรมทางธุรกิจในยูโรโซนที่ลดลงผ่อนคลายลงในเดือนนี้ เนื่องจากอุตสาหกรรมบริการกลับมาเติบโตอีกครั้ง ตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของยูโรโซนเบื้องต้นของ HCOB

คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป( ECB) กล่าวว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก หากอัตราเงินเฟ้อยังคงผ่อนคลายลงสู่เป้าหมาย 2% ขณะที่รองประธานหลุยส์ เด กินโดส กล่าวว่า ECB มั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่เป้าหมาย 2% ในปี 2568

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สี่ในปีนี้ ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจับตาการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐ ธนาคารกลางอังกฤษ(BOE) ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ธนาคารกลางนอร์เวย์( Norges Bank) ธนาคารกลางสวีเดน( Riksbank)
หุ้น Porsche ลดลง 2.2% หลังจากเตือนว่าอาจลดมูลค่าหุ้น Volkswagen ลงได้ถึง 2 หมื่นล้านยูโร (21 พันล้านดอลลาร์) และคาดว่าผลการดำเนินงานของกลุ่มในปี 2024 หลังหักภาษีจะเป็น “ลบอย่างมีนัยสำคัญ”

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 515.83 จุด ลดลง 0.62 จุด, -0.12%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,262.05 จุด ลดลง 38.28 จุด, -0.46%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,357.08 จุด ลดลง 52.49 จุด, -0.71%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 20,313.81 จุด ลดลง 92.11 จุด, -0.45%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 58 เซนต์ หรือ 0.81% ปิดที่ 70.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือน กุมภาพันธ์ ลดลง 58 เซนต์ หรือ 0.78% ปิดที่ 73.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
———————————————————————————————————————————————————–