TOA ฟาดกำไรทะลุ 651 ล้านบ. ส่งซิก Q4 เติบโตต่อเนื่อง

HoonSmart.com >> TOA ฟาดกำไร Q3/66 ทะลุ 651 ล้านบาท โตถึง 86% เผย Q4 ยังสดใสเป็นไฮซีซั่นการก่อสร้างและท่องเที่ยว พร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่ Net Zero

จตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ

นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย )  หรือ TOA ย้ำแชมป์ผู้นำนวัตกรรมสีและวัสดุก่อสร้างครบวงจร  เปิดเผย ผลประกอบการเติบโตดีต่อเนื่อง ซึ่งไตรมาส 3 สิ้นสุด 30 ก.ย. Q3/66 มีรายได้รวม 5,454 ล้านบาท เติบโต 7% และกำไรสุทธิรายไตรมาสสูงถึง 651 ล้านบาท เติบโต 86%

งวด 9 เดือน รายได้รวม 16,666 ล้านบาท เติบโต 9%  กำไรสุทธิ รวมกว่า 2,025 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 80%

ทั้งนี้ จากอัตรากำไรขั้นต้นในภาพรวมที่มีการฟื้นตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากการบริหารจัดการด้านวัตถุดิบและต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ประกอบกับวัตถุดิบบางส่วนปรับราคาลง

สำหรับภาพรวมตลาดในไตรมาสที่ 4 มองว่ายังมีแนวโน้มเป็นบวก สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะดีมานด์มีความต้องการใช้สีและวัสดุก่อสร้างไปจนถึงต้นปี 2567 เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของอุตสาหกรรมก่อสร้างและการท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการภาครัฐ เพื่อสร้างรายได้ให้มีเม็ดเงินหมุนเวียน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้คล่องตัวขึ้น

นอกจากนี้บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจด้วยหลัก ESG ครบทุกมิติ จนทำให้ได้รับการประเมินเป็นหุ้นยั่งยืน (SET ESG Ratings) ระดับ A ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ประจำปี 2566 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุน นักวิเคราะห์การลงทุน และผู้จัดการกองทุน ด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน

ทั้งการมีธรรมาภิบาลที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคม ควบคู่กับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ด้วยภารกิจการเป็นองค์กรอุตสาหกรรมสีเขียว เพื่อมุ่งสู่ Net Zero ภายในปี 2050 บริษัทฯ จึงได้เปิดตัวมาตรฐานใหม่ “TOA GREEN CERTIFIED” สัญลักษณ์สินค้าคุณภาพ การันตีด้วยเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยที่ดีต่อผู้บริโภคและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย

 

1. HEALTH AND WELLNESS : ผ่านมาตรฐาน Indoor Environmental Quality, LEED 4.1 และ WELL สารระเหยอินทรีย์ (VOCs) ต่ำ

2. GREEN PRODUCTION : ผ่านมาตรฐานการผลิต Green Industry Level 4 ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Footprint) มีฉลากคาร์บอน ใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในกระบวนการผลิต ลดของเสียจากกระบวนการผลิต

3. GREEN MATERIAL AND PACKAGING : ลดการใช้วัตถุดิบที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สามารถเวียนบรรจุภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่ และการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ

4. ENERGY AND COST SAVING : ช่วยประหยัดพลังงาน ลดความร้อนในอาคาร (ฉลากประหยัดพลังงาน เบอร์ 5) เพิ่มอายุการใช้งาน ลดทรัพยากรและค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาอาคาร ลดขั้นตอน ประหยัดเวลาการทาสี

5. GREEN INNOVATION AND SOLUTION : นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่ดีกว่า และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้น ที่พ่วงด้วยมาตรฐานระดับโกล์ดคลาส (TOA Green Certified Gold Class) สำหรับสินค้าที่มีนวัตกรรมสีเขียวขั้นสูง ด้วย 2 สุดยอดนวัตกรรมสีรักษ์โลก กับรางวัลชนะเลิศ 2 ปีซ้อน “Best Innovation Award 2022 – 2023” จากเวทีงานสถาปนิก

ทั้ง ‘TOA Organic Care’ สีทาภายในที่พัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยี Bio-Based ใช้วัตถุดิบหลักจากพืชหมุนเวียน รายแรกและรายเดียวในไทยที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก USDA สหรัฐอเมริกา และ ‘TOA AQUA SHIELD’ สีเคลือบทับหน้ารวมรองพื้น สูตรน้ำ กลิ่นอ่อน ปลอดภัย ทาได้หลากหลายพื้นผิวและนี่จึงไม่ใช่แค่ทางเลือก.. แต่เป็นทางรอดของพวกเรา เพียงมองหาสินค้าที่ลดการใช้วัตถุดิบที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มองหาสัญลักษณ์มาตรฐานใหม่ ‘TOA GREEN CERTIFIED’

“TOA เดินหน้าเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพื่อก้าวสู่ปีที่ 60 กับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ยกระดับคุณภาพชีวิต ด้วยมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมสีที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งสู่ NET ZERO” นายจตุภัทร์ กล่าว