ดาวโจนส์ปิดลบ 234 จุด …PPI ร้อนแรงเกินคาด

HoonSmart.com >> ดาวโจนส์ปิดลบ 234 จุด PPI ร้อนแรงเกินคาด  จับตาธนาคารกลางสหรัฐ ( Fed)  กำลังจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า ขณะที่ ธนาคารกลางยุโรป (ECB)  ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ตามคาด  

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 12 ธ.ค. 2567 ปิดที่ 43,914.12 จุด ลดลง 234.44 จุด หรือ -0.53% ด้วยแรงกดดันจากดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ร้อนแรงเกินคาด ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีอ่อนตัวลง

ดัชนี S&P 500 ปิดที่  6,051.25 จุด ลดลง 32.94 จุด, -0.54%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,902.84 จุด ลดลง 132.05 จุด, -0.66%

กระทรวงแรงงานรายงานดัชนี(PPI) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในสัปดาห์หน้า ว่าในเดือนพฤศจิกายน ราคาผู้ผลิต เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ แม้ต้นทุนการบริการที่ลดลงจะชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มภาวะเงินเฟ้อที่ลดลงต่อเนื่อง

ดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 3.0% ในเดือนพฤศจิกายน เมื่อเทียบรายปี เป็นการปรับขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2023 และสูงกว่า 2.6% ที่นักวิเคราะห์คาดและเพิ่มขึ้นจาก 2.6% ในเดือนตุลาคม ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.4% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่า 3.2% ที่นักวิเคราะห์คาด และเพิ่มขึ้นจาก 3.4% ในเดือนตุลาคม

นอกจากนี้การยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นก็เพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความยืดหยุ่นของตลาดแรงงาน

กระทรวงแรงงานรายงาน การยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 17,000 ราย มาที่ 242,000 ราย สูงสุดในรอบ 2 เดือน และสูงกว่า 220,000 รายที่กวิเคราะห์คาด

ร็อบ ฮาเวิร์ธ นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโสของ U.S. Bank Wealth Management กล่าวว่า นักลงทุนพยายามประเมินว่า เฟดจะตัดสินใจอย่างไรในสัปดาห์หน้า อัตราเงินเฟ้อจะมีผลหรือไม่ และเฟดจะต้องชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหรือไม่

ประกอบกับมีแรงเทขายออกมาหลังดัชนี Nasdaq แตะระดับ all-time high วันพุธ

คีธ บุคานัน ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโออาวุโสของ Globalt Investments กล่าวกับ CNBC ว่า ภาวะเงินเฟ้อที่ลดลงมีแนวโน้มที่ดีและน่ากังวลในเวลาเดียวกัน และยังคงเดินหน้าคุมให้ต่ำกว่า 3% แต่ความคืบหน้าดูเหมือนจะช้าลง ในขณะที่พยายามทำให้ บรรลุเป้าหมายของเฟด ที่ 2% แต่ยังคงเชื่อว่า Fed กำลังจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า

เครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้ความเป็นไปได้เกือบ 95% ที่ผู้กำหนดนโยบายของเฟดจะลดดอกเบี้ยลง 0.25%

หุ้นเทคโนโลยีปรับตัวลง โดยหุ้น Nvidia ลดลงกว่า 1% หุ้น Adobe บริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ลดลงกว่า 13% หลังประมาณการรายได้ปี 2025 ต่ำกว่าตลาดคาด หุ้น Meta Platforms หุ้น Alphabet และหุ้น  Amazon  ก็ปรับตัวลงเช่นกัน

หุ้น Warner Bros. Discovery พุ่งขึ้น 15.4% หลังจากประกาศแผนแยกธุรกิจเคเบิลทีวีที่กำลังซบเซาลงออกจากธุรกิจสตรีมมิงและสตูดิโอ

ตลาดยุโรปปิดลบหลังธนาคารกลางยุโรป (ECB ) ธนาคารกลางสวิสและปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงตามคาด  เนื่องจากผู้กำหนดนโยบาย เตือนถึงปัญหาทางเศรษฐกิจและการเมืองในภูมิภาคและที่อื่น ๆ

นางคริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB กล่าวว่า ผู้กำหนดนโยบาย ได้หารือเกี่ยวกับ ความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ย โดยชี้ไปที่สถานการณ์ทางการเมืองในบางประเทศสมาชิก และการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่โดนัลด์ ทรัมป์คว้าชัย ตลอดจนยังเตือนว่าเศรษฐกิจยูโรโซนกำลังอ่อนแรงและความเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งทางการค้ามากขึ้นอาจส่งผลต่อการเติบโตของยูโรโซน

ขณะที่ธนาคารกลางสวิสปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% โดยอ้างถึงอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์และการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของยุโรป

ค่าเงินฟรังก์ ฝรั่งเศสอ่อนค่าเมื่อเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐ และเงินยูโรหลังการประกาศลดดอกเบี้ย

หุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานลดลงมากที่สุด โดยลดลง 1.7% ขณะที่กลุ่มสินค้าหรูเพิ่มขึ้น 0.9%

สำหรับหุ้นรายตัวนั้น หุ้น Diageo ผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สัญชาติอังกฤษเพิ่มขึ้น 2.7% หลังจาก UBS ปรับเพิ่มความน่าลงทุน โดยชึ้ไปที่สัญญาณเชิงบวกสำหรับธุรกิจในสหรัฐฯ

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 519.20 จุด ลดลง 0.75 จุด, -0.14%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,311.76 จุด เพิ่มขึ้น 10.14 จุด, +0.12%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,420.94 จุด ลดลง 2.46 จุด, -0.03%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่  20,426.27 จุด เพิ่มขึ้น 27.11 จุด, +0.13%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 27 เซนต์ หรือ 0.38% ปิดที่ 70.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล  และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.15% ปิดที่ 73.41ดอลลาร์ต่อบาร์เรล