ดาวโจนส์ปิดลบ 240 จุด กลุ่มเทคโนโลยีร่วง

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดลบ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 240 จุด แรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี “Nvidia” นำ นักลงทุนรอข้อมูลเงินเฟ้อปลายสัปดาห์ ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” ปรับเพิ่มขึ้น ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวกสูงสุดรอบ 6 สัปดาห์ หุ้นเหมืองแร่และสินค้าหรูนำ หลังจีนให้คำมั่นจะกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 9 ธันวาคม 2567 ปิดที่ 44,401.93 จุด ลดลง 240.59 จุด หรือ -0.54% ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 ถอยลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันจันทร์ จากการร่วงลงของกลุ่มเทคโนโลยีนำโดยหุ้น Nvidia ขณะที่นักลงทุนรอข้อมูลเงินเฟ้อในปลายสัปดาห์นี้

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 6,052.85 จุด ลดลง 37.42 จุด, -0.61%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,736.69 จุด ลดลง 123.08 จุด, -0.62%

หุ้น Nvidia ผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ลดลงราว 2.6% หลังจากหน่วยงานกำกับดูแลของจีนประกาศว่ากำลังสืบสวนบริษัทชิปปัญญาประดิษฐ์ที่อาจละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของประเทศ และดึงให้กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศลดลง 0.45%

หุ้น Advanced Micro Devices ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปอีกรายปิดลดลง 5.6% หลังจากที่ Bank of America ปรับคำแนะนำการลงทุนลงเป็น neutral จาก buy โดยชี้โอกาสที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดที่จำกัด อันเป็นผลมาจาก ความเสี่ยงในการแข่งขันที่สูงขึ้นใน AI เมื่อเทียบกับ Nvidia ที่ครองตลาด หุ้นMeta Platforms และ Netflix ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีก็อ่อนตัวลงเช่นกัน

ดัชนีกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ตลาดฟิลาเดลเฟียร่วงลง 0.87%

แซม สโตวาล หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของ CFRA Research กล่าวว่า ตลาดค่อนข้างประหลาดใจต่อการสืบสวน Nvidia ของจีนว่าการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่กระทบตลาดอยู่บ้าง

หุ้น Comcast ลดลง 9.5% หลังจากคาดการณ์ว่าจะสมาชิกบรอดแบนด์จะหายไปกว่า 100,000 รายในไตรมาสที่สี่ ส่งผลให้กลุ่มบริการการสื่อสารลดลง 1.3%

หุ้น Hershey ผู้ผลิตช็อกโกแลตพุ่งขึ้น 10.9% ตามรายงานของสื่อว่า Mondelez ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Cadbury กำลังสำรวจการซื้อกิจการผู้บริษัทนี้ หุ้น Mondelez ร่วงลง 2.3%
นักลงทุนรองการรายงานข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันพุธ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพฤหัสบดี ก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 17-18 ธันวาคม
โดยคาดวว่าดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายน จะแสดงถึงแรงกดดันด้านราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย นักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดย Dow Jones คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือนและ 2.7% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งจะเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มขึ้นจาก 0.2% เมื่อเทียบรายเดือนและ 2.6% เมื่อเทียบรายปี ในเดือนก่อนหน้า

หลังการรายงานข้อมูลเมื่อวันศุกร์ที่แสดงให้เห็นว่าอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 4.2% ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานผ่อนคลายลง ทำให้การคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25%ในการประชุมที่กำลังจะมีขึ้นพุ่งสูงขึ้นมากกว่า 85%

ตลาดยุโรปปิดบวกระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ นำโดยหุ้นเหมืองแร่และสินค้าหรู หลังจากจีนให้คำมั่นว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

ดัชนี STOXX 600 เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน

ดัชนีกลุ่มเหมืองแร่ยุโรปที่มีธุรกิจในจีนในยุโรป เพิ่มขึ้น 3.2% และเพิ่มขึ้นภายในวันเดียว

มากที่สุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน หลังจากที่มีรายงานว่าคณะกรรมการกรมการเมืองของจีนระบุว่าจะใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอย่างเหมาะสมในปีหน้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนในการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกที่นำไปสู่การผ่อนคลายนับตั้งแต่ปี 2010

หุ้นของบริษัทหรูที่ทำรายได้ส่วนใหญ่จากจีน เช่น LVMH และ Kering เพิ่มขึ้นกว่า 3% ต่อหุ้น ส่งผลให้ดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศสเพิ่มเป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน

อย่างไรก็ตามยังมีความไม่แน่นอนทางการเมือง เพราะประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงยังไม่ได้เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในขณะที่พรรค National Rally ฝ่ายขวาจัดประสบกับความพ่ายแพ้จากการเลือกตั้งอย่างน่าประหลาดใจเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

กลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้น 2.1% ตามราคาน้ำมันหลังจากการล่มสลายของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย ทำให้เกิดความกังวลว่าความไร้เสถียรภาพจะเพิ่มขึ้นในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม

ดัชนีการบินและอวกาศและการป้องกันประเทศของยุโรปลดลง 1.3% สู่ระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์

นักลงทุนรอข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในวันพุธ เพื่อประเมินการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในขณะที่ธนาคารกลางยุโรป คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%ในวันพฤหัสบดี

สำหรับหุ้นรายตัวนั้น หุ้น Vivendi กลุ่มสื่อยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศสปิดบวก 1.2% หลังจากผู้ถือหุ้นอนุมัติแผนการแยกกิจการ

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 521.22 จุด เพิ่มขึ้น 0.75 จุด, +0.14%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,352.08 จุด เพิ่มขึ้น 43.47 จุด, +0.52%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,480.14 จุด เพิ่มขึ้น 53.26 จุด, +0.72%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 20,345.96 จุด ลดลง 38.65 จุด, -0.19%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 1.17 ดอลลาร์ หรือ 1.74% ปิดที่ 68.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 1.02 ดอลลาร์ หรือ 1.43% ปิดที่ 72.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
———————————————————————————————————————————————————–