KTB ขึ้นนำกลุ่มแบงก์ที่ทรงตัวได้ดีกว่า SET หวังตั้งสำรองลดหลังมีมาตรการแก้หนี้

HoonSmart.com>>หุ้นในกลุ่มธนาคารทรงตัวได้ดีกว่าตลาดโดยรวมที่ติดลบกว่า 7 จุด โดยดัชนีกลุ่มธนาคารบวก 0.47% ขึ้นนำโดย KTB บวก 2.90% สาม โบรกเกอร์ต่างมองมาตรการแก้หนี้ของรัฐที่จะแถลง 11 ธ.ค.นี้ เป็นบวกต่อกลุ่มธนาคาร ในกาจัดการคุณภาพสินทรัพย์ และงบดุล รวมถึงทำให้คามต้องการกู้ยืมเพิ่มขึ้น ทั้งคาดหวังธนาคารจะตั้งสำรองลดลง

เมื่อเวลา 14.28 น.ดัชนีกลุ่มธนาคารบวก 0.47% มาที่ 402.79 จุด เพิ่มขึ้น 1.90 จุด หุ้นแต่ละตัวในกลุ่มธนาคารต่างทรงตัวได้ดีกว่าตลาดโดยรวมที่ดัชนี SET ลบ 7.93% โดยหุ้นที่ขึ้นนำกลุ่มฯคือ KTB บวก 2.90% มาที่ 21.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,248.17 ล้านบาท

บล.ธนชาต ระบุว่า การปรับโครงสร้างหนี้รายย่อยเป็นบวกต่อคุณภาพสินทรัพย์ ให้ติดตามการแถลงปรับโครงสร้างหนี้ภาคครัวเรือน-SMEs วันที่ 11 ธ.ค. นี้รายละเอียดเบื้องต้นจะเป็นการพักชําระดอกเบี้ย 3 ปีสําหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยรถยนต์และ SMEs โดยใช้เงินจากการลดเงินนําส่ง FIDF ลงเหลือ 0.23% จาก 0.46% มองเป็น “บวก” ต่อกลุ่มธนาคารในการจัดการคุณภาพสินทรัพย์ และงบดุล รวมถึงมีโอกาสทําให้ความต้องการกู้ยืมเพิ่มขึ้น ซึ่งธนาคารที่มีสัดส่วนลูกหนี้ในกลุ่มดังกล่าวสูง ได้แก่ KKP (ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ลดลง ขณะที่ปันผลสูงระดับ 9.3% ปีหน้า) TTB (เติบโตดีจากภายในปันผล 7.6% ปีหน้าราคาอยู่โซนล่างเป็น Top pick กลุ่มธนาคารคู่กับ KTB) KBANK

บล.กรุงศรี แนะนำหุ้นธนาคารกสิกรไทย (KBANK) สัญญาณการฟื้นตัวเศรษฐกิจภายใน คาดหวังความต่อเนื่องจากการออกทยอยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐฯเพิ่มเติมช่วงสัปดาห์นี้ โดยมีมาตรการสำคัญสุดที่คาดบวกโดยตรงต่อกลุ่มธนาคาร การแก้หนี้ครัวเรือน 1.3 ล้านล้านบาท ครอบคลุมสินเชื่อบ้าน รถยนต์ และ SMEs (KBANK มียอดสินเชื่อดังกล่าว 50% ของสินเชื่อรวม)

พร้อมมองกำไรสุทธิงวดไตรมาส 4 ปี 2567 มีโอกาสอ่อนตัวลงเล็กน้อย QoQ ตามผลกระทบฤดูกาล ซึ่งช่วงปลายปีกลุ่มธนาคารมักมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม KBANK ยังน่าจะเห็นการฟื้นตัว YoY สูงจากฐานต่ำ โดยรวมปี 2567 มองกำไรเติบโต 16.7% และเพิ่มขึ้นอีก 10% ในปี 2568

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คงน้ำหนักการลงทุนกลุ่มธนาคาร”เท่ากับตลาด” แม้จะมีผลกระทบจากรายได้ดอกเบี้ยที่ต่ำลง ตามแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบาย และการให้มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ แต่คาดกำไรรวมของกลุ่มแบงก์ยังมีปัจจัยหนุนจากการตั้งสำรองที่จะทยอยลดลง โดยหุ้น Top Pick แนะนำ SCB ราคาเป้าหมาย 130 บาท และ KBANK ราคาเป้าหมาย 275 บาท

ทั้งนี้ มีมุมมองบวกเล็กน้อยต่อประเด็นมาตรการแก้หนี้ครัวเรือน โดยมาตรการแก้หนี้รอบใหญ่ที่กำลังจะมีข้อสรุป (คาดจะเป็น 11 ธ.ค.นี้) เป็นการแก้หนี้โดยที่ไม่สร้างผลกระทบเชิงลบให้กับผลดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร ในมุมของลูกหนี้จะได้รับแรงจูงใจให้กับมาชำระหนี้มากขึ้น โดยการลดเงินต้นลง 50% และจะได้รับการยกเว้นดอกเบี้ยหากมีการชำระเงินตามกำหนด

ส่วนในมุมของธนาคาร มาตรการดังกล่าวจะจำกัดที่หนี้เสียที่อายุไม่เกิน 1 ปี ทำให้กรอบการช่วยเหลือค่อนข้างจำกัด อีกทั้งลูกหนี้ดังกล่าวส่วนใหญ่จะเป็นลูกหนี้ Stage 2 หรือ Stage 3 ทำให้เป็นกลุ่มลูกหนี้ที่มีการตั้งสำรองไว้แล้ว หากลูกหนี้กลับมาชำระเงินจะช่วยให้ปริมาณหนี้เสียและการตั้งสำรองกลุ่มลดลง

 
 
———————————————————————————————————————————————————–