ลดปัญหาหุ้นใหญ่ กระจายน้อย ด้วยดัชนีหุ้นถ่วงน้ำหนักตาม Free Float

โดย…สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
หุ้นใหญ่ที่สร้างผลกระทบต่อดัชนีตลาดหุ้น

ในช่วงที่ผ่านมา หุ้นใหญ่ตัวหนึ่งได้กลายเป็นประเด็นที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดในตลาดหลักทรัพย์ไทย ด้วยน้ำหนักที่สูงในดัชนี SET (ประมาณ 10% ของ Market Capitalization ทั้งตลาด) ทำให้การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อดัชนีตลาดหุ้นโดยรวม

ปัญหาหลักของหุ้นดังกล่าว ไม่ได้อยู่ที่ขนาด แต่มาจากการที่หุ้นนั้นมีการกระจายการถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float) ค่อนข้างต่ำ ซึ่งหมายความว่าจำนวนหุ้นที่ซื้อขายได้จริงในตลาดมีน้อย ราคาจึงสามารถผันผวนได้มาก และเมื่อเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อดัชนีตลาดหลักทรัพย์ได้มาก ไม่ว่าจะเป็น SET Index SET50 Index หรือ SET100 Index จึงส่งผลให้กองทุนรวมที่ลงทุนตามดัชนี (Index fund) หรือกองทุนรวม/กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่ใช้ดัชนีดังกล่าวเป็นอัตราอ้างอิงในการวัดผลตอบแทน (Benchmark) จำเป็นต้องลงทุนในหุ้นนั้น เพื่อให้กองทุนมีผลตอบแทนที่สอดคล้องกับดัชนี และยิ่งเป็นแรงผลักให้ปัญหาความผันผวนของราคาและปัญหา Free Float ต่ำของหุ้นยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น

 

SET50/SET100 Free Float Adjusted: ทางออกที่เป็นไปได้
เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากหุ้นที่มี Free Float ต่ำ ตลาดหลักทรัพย์จึงได้เปิดตัวดัชนี SET50FF (SET50 Free Float Adjusted Market Capitalization Weighted Index) และดัชนี SET100FF (SET100 Free Float Adjusted Market Capitalization Weighted Index) เมื่อเดือนมกราคม 2567 ซึ่งเป็นดัชนีที่ปรับน้ำหนักของหุ้นแต่ละตัวตามสัดส่วน Free Float ทำให้นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนในกองทุนที่ลงทุนตามดัชนีนี้ได้
เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาหุ้นที่เป็นองค์ประกอบในดัชนีที่มี Free Float ต่ำได้

 

ทำไม SET50FF SET100FF จึงสำคัญ ?
• สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง: ดัชนีนี้ช่วยให้ราคาในตลาดสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของหุ้นมากขึ้น เนื่องจากไม่ได้ให้ความสำคัญกับหุ้นที่มี Free Float ต่ำมากเกินไป และช่วยให้ตลาดหุ้นมีความสมดุลมากขึ้น ไม่ใช่แค่หุ้นเพียงไม่กี่ตัวที่ครองความสนใจ

• ลดความผันผวน: การปรับน้ำหนักตามสัดส่วน Free Float ช่วยลดความผันผวนของดัชนีที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของหุ้นขนาดใหญ่แต่มี Free Float ต่ำเพียงไม่กี่ตัว

• ลดแรงกดดัน: หากกองทุนหันไปอ้างอิงดัชนีที่เป็น Free Float adjusted (ดัชนี FF) มากขึ้น จะช่วยลดแรงกดดันในการซื้อหุ้นขนาดใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับดัชนี

• เพิ่มความน่าเชื่อถือ: การที่ดัชนีหุ้นไทยสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงมากขึ้น ความผันผวนลดลง จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของตลาดหุ้นไทยในสายตานักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

 

การอ้างอิงดัชนีของกองทุนรวม/กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ตัวเร่งปัญหาที่แก้ไขได้
Index fund เป็นทางเลือกสำคัญที่ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถลงทุนได้ตามสภาพตลาดโดยรวม ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ควรเลือกดัชนีที่ติดตาม (Track) ให้สอดคล้องกับความสามารถในการลงทุนได้จริง (Investable) ด้วย เมื่อตลาดหลักทรัพย์ได้จัดทำดัชนี SET50FF และ SET100FF ที่สะท้อนสภาพคล่องของหุ้นที่สามารถลงทุนได้จริงแล้ว และคำนวณโดยใช้ผลตอบแทนรวม (TRI) บลจ. ที่ประสงค์จะจัดตั้ง Index fund ใหม่ จึงควรเลือกดัชนีดังกล่าวในการติดตามลงทุน ส่วน Index fund ที่มีการจัดตั้งอยู่แล้ว สามารถเปลี่ยนแปลงดัชนีที่ติดตามให้เป็นดัชนี FF ได้ ด้วยการแก้ไขนโยบายการลงทุน

สำหรับกองทุนรวมอื่นที่มีการอ้างอิงดัชนี SET Index SET50 หรือ SET100 เป็น benchmark ในการวัดผลตอบแทนกองทุน และต้องการลดแรงกดดันจากความผันผวนของหุ้นข้างต้นเพื่อรักษาประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุน บลจ. สามารถเปลี่ยนแปลง Benchmark เป็นดัชนี FF ได้ตามความเหมาะสม โดยเปิดเผยข้อมูล แจ้งวันที่มีผลให้ผู้ลงทุนทราบล่วงหน้า พร้อมทั้งอธิบายเหตุผลและผลกระทบ ผ่านช่องทางที่ระบุในหนังสือชี้ชวนของกองทุนรวม นอกจากนี้ สำหรับกรณีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คณะกรรมการกองทุนและ บลจ. ก็สามารถทบทวนและเปลี่ยนแปลง Benchmark เป็นดัชนี FF ได้ตามความเหมาะสมเช่นกัน

บทสรุป
การเปิดตัวดัชนี SET50FF และ SET100FF นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาตลาดทุนไทยให้มีความสมดุลและสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงมากยิ่งขึ้น ดัชนีเหล่านี้ช่วยลดปัญหาความผันผวนของดัชนีที่เกิดจากหุ้นขนาดใหญ่ที่มี Free Float ต่ำ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยเพิ่มเสถียรภาพให้ตลาดหุ้นไทย เพื่อให้ดัชนีดังกล่าวเกิดประโยชน์สูงสุด ผู้จัดการกองทุนควรพิจารณานำดัชนีที่ปรับด้วย Free Float มาใช้เป็น Benchmark แทนดัชนีเดิม รวมถึงการสื่อสารกับผู้ถือหน่วยลงทุน คณะกรรมการกองทุนและสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้วแต่กรณี อย่างโปร่งใสเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

ทั้งนี้ การดำเนินงานร่วมกันระหว่างผู้กำกับดูแล ผู้จัดการกองทุน และนักลงทุน รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้อง จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างตลาดทุนไทยให้มีเสถียรภาพและน่าเชื่อถือในระยะยาว

———————————————————————————————————————————————————–