HoonSmart.com>>ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วง 128 จุด สวนทางดัชนี Nasdaq และ S&P นิวไฮ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แรงหนุนจากหุ้นเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นในเดือนพ.ย. นักลงทุนรอข้อมูลเศรษฐกิจและรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรสัปดาห์นี้ ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” เพิ่มขึ้น ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 2 ธันวาคม ปิดที่ 44,782.00 จุด ลดลง 128.65 จุด หรือ -0.29% ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นเทคโนโลยีหลังปรับขึ้นในเดือนพฤศจิกายนขณะที่นักลงทุนรอข้อมูลเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 6,047.15 จุด เพิ่มขึ้น 14.77 จุด, +0.24%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,403.95 จุด เพิ่มขึ้น 185.78 จุด, +0.97%
กลุ่มเทคโนโลยี บริการการสื่อสาร และสินค้าฟุ่มเฟือยต่างเพิ่มขึ้นประมาณ 1% ขณะที่กลุ่มอื่นๆของ S&P 500 ลดลง หุ้น Tesla พุ่งขึ้น 3.5% หลัง Stifel เพิ่มราคาเป้าหมายของหุ้น และ Roth MKM ปรับคำแนะนำเป็น buy โดยชี้ไปที่ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดของซีอีโออีลอน มัสค์ กับว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
หุ้น Super Micro Computer ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ปัญญาประดิษฐ์ เพิ่มขึ้นเกือบ 29% หลังจากคณะกรรมการพิเศษพบว่าไม่มีหลักฐานของการประพฤติมิชอบ และงบการเงินของบริษัท มีความถูกต้องตามสาระสำคัญ หุ้น Amazon เพิ่มขึ้นกว่า 1% ในช่วงเริ่มต้นเทศกาลช้อปปิ้งช่วงวันหยุดใน CyberMonday
เดือนพฤศจิกายนถือเป็นเดือนที่ดีที่สุดของปี 2024 สำหรับทั้งดัชนี Dow และ S&P 500 โดยเพิ่มขึ้น 7.5% และ 5.7% ตามลำดับ ส่วนใหญ่มาจากการปรับขึ้นหลังการเลือกตั้งที่ทรัมป์กลายเป็นผู้ชนะการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
หุ้นขนาดเล็กยังปรับขึ้นด้วยในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากนักลงทุนเห็นว่ากลุ่มนี้ได้ประโยชน์จากการลดภาษีของทรัมป์ ดัชนี Russell 2000 เพิ่มขึ้นกว่า 10% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายเดือนที่ใหญ่ที่สุดของปีอีกด้วย
เจย์ แฮทฟิลด์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ ของ InfraCap กล่าวว่า ตลาดจะเคลื่อนไหวในกรอบไปจนถึงสิ้นปี 2024 โดยมองว่าดัชนี S&P 500 น่าจะปิดสิ้นปีที่ 6,200 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่ปิดในวันศุกร์ไม่ถึง 3% เนื่องจากมีการขานรับนโยบายส่งเสริมภาคธุรกิจของทรัมป์แล้ว แต่ต้องมีรายละเอียดของนโยบาย
นักลงทุนยังประเมินความเห็นจากผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ที่ว่า เขามีแนวโน้มที่จะลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานในการประชุมวันที่ 17-18 ธันวาคม
นักลงทุนยังคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธันวาคม แต่ข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดทำให้เกิดความกังวลว่าความคืบหน้าอาจหยุดชะงัก
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจหลายชุด ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนตุลาคมการจ้างงานภาคเอกชนเดือนพพฤศจิกายน จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพฤศจิกายน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่เมื่อคืนนี้ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพฤศจิกายน ของเอสแอนด์พี โกลบอลที่เพิ่มขึ้นมาที่ 49.7 จาก 48.5 ในเดือนตุลาคมเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5
สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) รายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้นมาที่ 48.4 จาก 46.5 ในเดือนตุลาคม และสูงกว่า 47.5 ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์แต่ยังหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8
ตลาดยุโรปปิดบวกขณะที่นักลงทุนประเมินภาวะเศรษฐกิจโลก และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในเดือนสุดท้ายของปีนี้
ตลาดหุ้นฝรั่งเศสผันผวน นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนและประเมินอนาคตทางการเมืองของประเทศ โดยที่รัฐบาลอายุ 3 เดือนจวนจะถึงจุดแตกหัก หลังจากพรรคขวาจัดและฝ่ายซ้าย กล่าวว่าจะลงคะแนนไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี มิเชล บาร์นีเยร์ ท่ามกลางความตึงเครียดเกี่ยวกับงบประมาณ
ดัชนี FTSE 100 ของสหราชอาณาจักรแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากค่าเงินสเตอร์ลิงหนุนหุ้นบริษัทข้ามชาติ เงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.8% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ มีผลดีต่อบริษัทใหญ่ เช่น Unilever, HSBC และ Anglo American ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่เป็นดอลลาร์
ในฝรั่งเศส ธนาคารCredit Agricole และ BNP Paribas ปิดลดลง 0.9% และ 1.2% ตามลำดับ
แต่ แบรนด์หรูฝรั่งเศสที่เน้นการส่งออก เช่น Hermes และ LVMH เพิ่มขึ้นกว่า 3% โดยได้ประโยชน์จากค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลง
หุ้น Airbus เพิ่มขึ้น 2% หลังจากแหล่งข่าวกล่าวว่าการส่งมอบของบริษัทเร่งตัวอย่างรวดเร็วในเดือนพฤศจิกายน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานได้แก่กิจกรรมการผลิตที่ตกต่ำลงทั่วยุโรโซนและอังกฤษ อัตราการว่างงานเดือนตุลาคมในสหภาพยุโรปยังคงทรงตัว
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 513.61 จุด เพิ่มขึ้น 3.36 จุดหรือ +0.66%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,236.89 จุด เพิ่มขึ้น 1.78 จุด หรือ +0.02%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 19,933.62 จุด เพิ่มขึ้น 307.17 จุด หรือ +1.57%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,312.89 จุด เพิ่มขึ้น 25.59 จุด หรือ +0.31%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ หรือ 0.15% ปิดที่ 68.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 1 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 71.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
———————————————————————————————————————————————————–

