ETL โชว์ฟอร์มหุ้นไทยตัวแรกทำธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน

HoonSmart.com>>”ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์”(ETL) โชว์ฟอร์มเป็นหุ้นไทยตัวแรกที่ดำเนินธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน เดินหน้าขยายขีดความสามารถในการให้บริการ พัฒนาระบบเทคโนโลยี ลงทุนในยานพาหนะ ลานตู้ และตู้คอนเทนเนอร์ทั้งแบบปกติและแบบควบคุมอุณหภูมิ มุ่งมั่นการเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่ครอบคลุมและยืดหยุ่น ตอกย้ำการเป็น THE CROSS-BORDER KING

นางสาวกฤชวรรณ ซื้อเจริญชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ (ETL) เปิดเผยว่า ด้วยศักยภาพของบริษัทฯดำเนินธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮ่องกง และจีน ซึ่งมีการเชื่อมต่อพรมแดนทางถนนและรางรถไฟ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งที่จะเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนไปยังทวีปยุโรปในอนาคต คาดว่าจะช่วยสนับสนุนให้ ETL เป็นหนึ่งหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างแน่นอน

บริษัทฯ วางแผนนำเงินที่ได้จากการ IPO ภายหลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องไปขยายธุรกิจ โดยมุ่งหวังสู่การเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่ครอบคลุมและยืดหยุ่น เพื่อความพึงพอใจของลูกค้าด้วยกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน 1. ใช้สำหรับการขยายธุรกิจจำนวน 70% เพื่อลงทุนในยานพาหนะ ได้แก่ รถลากจูงและหางพ่วงเพื่อขยายกำลังการขนส่ง, ลงทุนในตู้คอนเทนเนอร์แบบควบคุมอุณหภูมิ (Reefer Container) และตู้แบบมาตรฐาน (Dry Container), ลงทุนในลานตู้คอนเทนเนอร์เพื่อจัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์ จอดยานพาหนะ รวมถึงซ่อมแซมและบำรุงรักษาสินทรัพย์ของกลุ่มบริษัทฯ และลงทุนระบบการบริหารจัดการการขนส่งรองรับการให้บริการที่เพิ่มมากขึ้น 2. ชำระคืนเจ้าหนี้และเงินกู้ยืม จำนวน 20% ได้แก่ ชำระคืนเจ้าหนี้ค่าซื้อกิจการ จากการเข้าซื้อธุรกิจในปี 2564 และชำระคืนเงินกู้ยืมให้กับสถาบันการเงิน เพื่อลดภาระต้นทุนทางการเงิน และ 3. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจ จำนวน 10% รองรับการขยายตัวของบริษัทฯ

กรรมการผู้จัดการบริษัท ETL กล่าวว่า การขยายธุรกิจในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้บริษัทฯเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต ด้วยแผนขยายงาน ได้แก่ การขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ เพื่อต่อยอดการเติบโต โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าผลไม้ ยาและเวชภัณฑ์ ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่มีอายุการใช้งานที่จำกัด จึงต้องการการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ น่าเชื่อถือ และระยะเวลาการขนส่งที่แน่นอน โดยบริษัทฯ สามารถให้บริการการขนส่งที่มีความปลอดภัย ภายใต้คุณภาพตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ การเพิ่มจำนวนยานพาหนะเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ด้วยประสบการณ์และฐานลูกค้าที่มีในมือ รวมถึงโอกาสธุรกิจในอนาคต จึงมีแผนขยายจำนวนรถลากจูงและรถกึ่งพ่วง รวมถึงการขยายการลงทุนตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิ (Reefer Container) เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้า พร้อมจัดทำโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ แบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain) ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าของการให้บริการ และยกระดับคุณภาพ โดยมุ่งเน้นการรักษาสินค้าให้คงคุณภาพเดิมจนถึงมือผู้รับปลายทาง

“กลุ่มผู้บริหารที่ร่วมก่อตั้งบริษัทฯ ต่างเชื่อมั่นในธุรกิจขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนเพราะช่วงที่ผ่านมา ETL เติบโตมาแบบ Organic ซึ่งเราที่ได้รับการสนับสนุนที่ดีมาจากลูกค้าทั้งหลายที่ให้ความเชื่อมั่น ซึ่งเป้าหมายหลังจากนี้ เราจะก้าวเข้าไปสู่ตลาดใหม่ๆ ฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่กว้างขึ้นกว่าเดิม โดยการเติบโตหลังจากนี้ก็จะเป็นการเปิดทางควบคู่กันไปทั้งแบบ Organic และ Inorganic โดย ETL พร้อมแล้วที่จะเป็นหุ้น Growth Stock ให้กับนักลงทุนต่อไป” นางสาวกฤชวรรณ กล่าว

ทั้งนี้ ETL มีศักยภาพเติบโตโดดเด่น จากแผนธุรกิจเน้นสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการขนส่งสินค้า ด้วยการขยายไปยังระบบโลจิสติกส์แบบควบคุมอุณหภูมิ(Reefer Container) เพราะเมื่ออ้างจากตัวเลขบทวิเคราะห์มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารมีมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท ทำให้เห็นถึงโอกาสความต้องการการขนส่งสินค้าที่ควบคุมอุณหภูมิ เช่น ผลไม้สดและผลไม้แช่เย็น ที่เป็นสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปยังตลาดหลักคือ ประเทศจีน ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่ ETL มีเครือข่ายและทำธุรกิจอยู่แล้ว ทำให้ ETL มองเห็นโอกาสที่จะเติบโตอย่างมหาศาลไม่ใช่เพียงแค่ 3-5 ปี แต่จะต่อเนื่องในระยะยาว ถือเป็นข้อแตกต่างเมื่อเทียบกับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน