HoonSmart.com>> “ตลาดหุ้นโตเกียว” เช้านี้ปรับลง ขายหุ้นกลุ่มส่งออก แรงกดดันจากเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ “ตลาดหุ้นเอเชีย” ส่วนใหญ่ปรับขึ้น ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกปลายสัปดาห์ที่แล้ว นักลงทุนเกาะติดการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของหลายประเทศในภูมิภาคทั้ง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และจีน
ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับลง แม้กลุ่มธนาคารปรับขึ้นจากความคาดหวังว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่หุ้นกลุ่มส่งออกได้รับแรงกดดันจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ในกลุ่ม Prime Market กลุ่มที่นำการปรับขึ้น คือ กลุ่มประกันกัยและกลุ่มธนาคาร ส่วนกลุ่มที่นำการปรับลงคือ กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
เวลา 9.00 น.ตามเวลาญี่ปุ่นเงินดอลลาร์อยู่ที่ 149.84-89 เยน จาก 149.68-78 เยนในนิวยอร์กและจาก 149.98-150.00 เยนในโตเกียวเมื่อเวลา 17.00 น. วันศุกร์
ณ เวลา 9.14 น. เวลาในประเทศไทย
ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 38,097.08 จุด ลดลง 110.95 จุด , -0.29%
ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับขึ้น ตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดบวกในปลายสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักลงทุนเกาะติดการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของหลายประเทศในภูมิภาคทั้ง ญี่ปุ่น เหาหลีใต้และจีน
เมื่อวันเสาร์ (30 พ.ย.) สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนรายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนเดือนพฤศจิกายนว่า เพิ่มขึ้นมาที่ 50.3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน และสูงกว่า 50.2 ที่นักวิเคราะห์คาด จาก 50.1 ในเดือนตุลาคม
ดัชนี PMI ที่กว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนยังคงขยายตัว
ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการลดลงมาที่ 50.0 จาก 50.2 ในเดือนก่อนและดัชนี PMI รวมทรงตัวที่ 50.8
ในวันนี้ S&P Global จะรายงาน PMI ภาคการผลิตสำหรับเศรษฐกิจทั่วเอเชีย รวมถึงการสำรวจของ Caixin PMI สำหรับจีน
ออสเตรเลียจะประกาศยอดค้าปลีกสำหรับไตรมาสที่สี่ ขณะที่อินโดนีเซียจะเปิดเผยตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนพฤศจิกายนในช่วงท้ายของวัน
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกาหลีใต้เปิดเผยว่าการส่งออกขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2023 โดยการส่งออกขยายตัว 1.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพฤศจิกายน ต่ำกว่า 2.8% การคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดย Reuters และลดลงอย่างมากจากที่เพิ่มขึ้น 4.6% ในเดือนตุลาคม
นักลงทุนยังจับตาการรายงานข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพฤศจิกายนของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ (6 ธ.ค.) เพื่อประเมินทิศทางเศรษฐกิจและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การจ้างงานของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น 183,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.1%
นักลงทุนยังจับตาสินทรัพย์ในตลาดเกิดใหม่ซึ่งรวมถึงเงินหยวนของจีนและแรนด์ของแอฟริกาใต้ หลังจากว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เตือนประเทศในกลุ่ม BRICS ว่าจะต้องได้รับคำมั่นว่าจะไม่สร้างสกุลเงินใหม่ หรือสนับสนุนสกุลเงินอื่นเพื่อแทนที่ดอลลาร์สหรัฐในการค้าโลก และหากไม่ปฏิบัติตาม ทรัมป์ก็ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าสหรัฐฯ 100%
ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 3,351.53 จุด เพิ่มขึ้น 25.08 จุด, +0.75%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 19,670.06 จุด เพิ่มขึ้น 246.45 จุด, +1.27%
ดัชนี Kospi ตลาดหุ้นเกาหลีอยู่ที่ 2,466.56 จุด เพิ่มขึ้น 10.65 จุด, +0.43%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ที่ 22,720.03 จุด เพิ่มขึ้น 457.53 จุด, +2.06%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 0.3 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ซื้อขายที่ 68.3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 0.3 ดอลลาร์ หรือ 0.42 ซื้อขายที่ 72.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
———————————————————————————————————————————————————–

