เงินลงทุนต่างชาติไหลออก “ตลาดหุ้นจีน-ตลาดเกิดใหม่” เดือนต.ค.ต่อเนื่อง

HoonSmart.com>> เงินลงทุนต่างประเทศ ไหลออก “ตลาดหุ้นจีน” เดือนต.ค.กว่า 6.1 พันล้านดอลลาร์ แม้ทางการมีมาตรการสนับสนุนเพิ่ม ด้าน “ตลาดเกิดใหม่” ขายกว่า 11 พันล้านดอลลาร์ ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางและบอนด์ยีลด์ในสหรัฐฯ กดดัน

ตลาดหุ้นจีนยังคงประสบกับการไหลออกของเงินทุนต่างประเทศอีกเดือนหนึ่งเนื่องจากกองทุนในต่างประเทศได้ขายหุ้นแผ่นดินใหญ่มูลค่า 44.8 พันล้านหยวน (6.1 พันล้านดอลลาร์) ในเดือนตุลาคม

ในเดือนนี้มีเงินไหลเข้าเพียง 3 วันเท่านั้น แม้ทางการจะมีมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติม โดยกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ ซื้อหุ้นธนาคารและ ETF

ยอดขายต่อเนื่องในช่วง 3 เดือนซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์มีมูลค่า 172 พันล้านหยวน และอาจจะทำให้กระแสเงินทุนในปีนี้กลายเป็นติดลบ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง ก็จะเป็นครั้งแรกที่จีนมีเงินทุนไหลออกรายปีนับตั้งแต่มีการเชื่อมการซื้อขายระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่-ฮ่องกงแห่งที่สองเปิดขึ้นในปลายปี 2559

ส่วนตลาดเกิดใหม่ (Emerging markets ) ก็ประสบกับการไหลออกของกองทุนต่างประเทศในเดือนตุลาคมเช่นกัน ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในสหรัฐฯ หากไม่รวมจีน นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นมูลค่าเกือบ 11 พันล้านดอลลาร์ในเดือนตุลาคม ส่งผลให้การขายหุ้นใน 3 เดือนมีมูลค่ามากกว่า 27 พันล้านดอลลาร์

นับเป็นการขายของจากนักลงทุนต่างชาติที่ต่อเนื่องนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีที่แล้ว เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและมีการล็อคดาวน์ในเมืองใหญ่ ๆ ของจีนทำให้นักลงทุนกังวล

ในตลาดหุ้นอินเดีย หลังจากมีสถานะขายสุทธิครั้งแรกในรอบ 6 เดือนในเดือนกันยายน นักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนในหุ้น(Foreign Portfolio Investors:FPI) ยังคงขายสุทธิในช่วงเดือนตุลาคมเช่นกัน

FPI ดึงเงินกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ออกจากตลาดหุ้นอินเดียในเดือนตุลาคม ส่งผลให้การไหลออกในช่วง 2 เดือนมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ กองทุนต่างประเทศยังได้ดึงเงินออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4 พันล้านดอลลาร์จากไต้หวันในเดือนตุลาคม

Luca Castoldi ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ของ Reyl Group กล่าวว่า ยังคงมีมุมมองที่ระมัดระวัง เนื่องจากคิดว่าประมาณการรายได้สำหรับปี 2567 สูงเกินไปในเอเชีย ส่วนการเติบโตของสหรัฐฯ จะไม่แข็งแกร่งในปี 2567 และผลของอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นกำลังส่งผลกระทบต่อภาคส่วนต่างๆ

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร ของ WHA Group ที่ ”A-” แนวโน้ม “Stable สะท้อนการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สอดคล้องกับพันธกิจมุ่งสร้างอนาคตอย่างยั่งยืWHA: WE SHAPE THE FUTURE