HoonSmart.com >> บล.CGSI คาดการณ์ SET Index วันนี้ 1,415-1,450 จุด ถูกกดดันจากนโยบายกีดกันทางการค้าของทรัมป์ และ แนวโน้มที่ Fed จะชะลอการลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ฟันด์โฟลด์ต่างชาติไหลออก
บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI สรุปภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ และทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ (28 พ.ย.) โดย : Trend Spotter
• ตลาดหุ้นสหรัฐ :
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง หลังรายงานตัวเลขดัชนี PCE-Core CPE สหรัฐฯ เดือนต.ค. ขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.3% yoy และ 2.8% yoy ตามลำดับ สอดคล้องกับที่ตลาดคาด (vs. เดือนก.ย. 2.1% และ 2.7%) รวมถึงการเสนอขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของทรัมป์ ส่งผลให้ตลาดกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อ ที่อาจทำให้ Fed ชะลอการลดดอกเบี้ย
โดยจาก CME FedWatch ตลาดให้น้ำหนักว่า Fed จะปรับลดดอกเบี้ยลง 25bp สู่ระดับ 4.50% ในการประชุมเดือนธ.ค. และ จะคงไว้ในการประชุมเดือนม.ค.-มี.ค. 2025
แนวโน้มนี้ ส่งผลให้ตลาดสหรัฐฯ ถูกกดดันนำโดยแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี (Nvidia -1.2%, Meta Platforms -0.8%) ซึ่งเป็นหุ้นที่มีความอ่อนไหวต่อดอกเบี้ยสูง
สำหรับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอื่นของสหรัฐฯ ได้แก่ GDP 3Q24 (ครั้งที่ 2) ขยายตัว 2.8% สอดคล้องกับที่ตลาดคาด (vs. 2Q24 +3.0%) และ จำนวนคนยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 2.13 แสนราย
ด้านราคาน้ำมันดิบ ปิดไม่เปลี่ยนแปลง (Brent +0.03%) แม้ว่าตลาดน้ำมันจะมีแรงสนับสนุนจากรายงานตัวเลขสินค้าคงคลังน้ำมันดิบจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล สูงกว่าตลาดคาดว่าจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล และ รายงานว่ากลุ่ม OPEC+ เตรียมชะลอแผนเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน แต่ราคาน้ำมันถูกกดดันจากความกังวลว่า Fed อาจชะลอการลดดอกเบี้ย และ สต็อกน้ำมันเบินซินที่พุ่งขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล สูงกว่าตลาดคาดว่าจะเพิ่มเพียง 4.6 หมื่นบาร์เรล
• SET Index :
เรายังคงคาดว่า SET Index จะแกว่งตัวบริเวณ 1,415-1,450 จุด
เรามองว่าตลาดหุ้นไทย ยังคงถูกดดันจากนโยบายกีดกันทางการค้าของทรัมป์ และ แนวโน้มที่ Fed จะชะลอการลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ฟันด์โฟลด์ต่างชาติไหลออก
สำหรับปัจจัยในประเทศอื่น ล่าสุด กระทรวงพลังงานจะประกาศลดค่าไฟฟ้างวดเดือนม.ค.-เม.ย. 25 ลงมาที่ 4.15 บาทต่อหน่วย (ปัจจุบัน งวดก.ย.-ธ.ค. 24 อยู่ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย) เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพและเป็นของขวัญปีใหม่
พรุ่งนี้ (29 พ.ย.) ติดตามรายงานดุลบัญชีเดินสะพัดไทยเดือนต.ค. และ ครม. สัญจรที่จะมีวาระพิจารณามอบเงินช่วยเหลือชาวนา วงเงิน 3.8 หมื่นล้านบาท, ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 และ งบกลางฟื้นฟูความเสียหายจากอุทกภัยวงเงิน 2.9 พันล้านบาท
• หุ้นแนะนำ
CPALL : คาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q24 จะยังมีอัตราการเติบโตแข็งแกร่ง yoy แม้จะต่ำกว่าใน 3Q24 เล็กน้อย เรายังแนะนำ “ซื้อ” CPALL จากแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งและฐานกำไรที่ใหญ่ขึ้น
(Take profit : 63.25 / Stop loss : 60.25)
ERW : คาดว่า sentiment ของนักลงทุนต่อกลุ่มท่องเที่ยวจะดีขึ้นช่วงไฮ-ซีซัน่ ใน 4Q24 และ RevPAR น่าจะกลับมาเติบโตในอัตราปกติหลังจากอยู่ในระดับต่ำในเดือนก.ย. 2024
(Take profit : 4.60 / Stop loss : 3.68)
#MacroWealthResearch
#CGSInternational
———————————————————————————————————————————————————–