“หุ้นเอเชีย” เช้านี้ส่วนใหญ่บวก ประเมินกำไรภาคอุตสาหกรรมจีน

HoonSmart.com>> “ตลาดหุ้นโตเกียว” เช้านี้ลดลงแรงขายหุ้นกลุ่มส่งออก หลังเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ด้าน “ตลาดเอเชีย” ส่วนใหญ่บวกและแกว่งตัวในกรอบ นักลงทุนประเมินผลกำไรภาคอุตสาหกรรมของจีน ข้อมูลเงินเฟ้อของออสเตรเลีย พร้อมเกาะติด “ทรัมป์” เตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน เม็กซิโก และแคนาดา

ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับลง จากหุ้นกลุ่มส่งออกถูกเทขายหลังเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

ในกลุ่ม Prime Market กลุ่มที่นำการปรับลง คือ กลุ่มอุปกรณ์การขนส่ง กลุ่มขนส่งทางทะเล และกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์
เงินดอลลาร์อยู่ที่ 152.56 เยน

ณ เวลา 10.09 น. เวลาในประเทศไทย

ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 38,165.85 จุด ลดลง 4276.15 จุด , -0.72%

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับขึ้น และแกว่งตัวในกรอบ ขณะที่นักลงทุนประเมินผลกำไรภาคอุตสาหกรรมของจีน ข้อมูลเงินเฟ้อของออสเตรเลีย รวมทั้งยังเกาะติดการประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน เม็กซิโก และแคนาดา ของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ข้อมูลที่รายงานเมื่อวันพุธ ผลกำไรภาคอุตสาหกรรมของจีนลดลง 10% ในเดือนตุลาคม

เป็นอีกหนึ่งสัญญาณบ่งชี้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดของจีนยังไม่สามารถพลิกฟื้นผลประกอบการของบริษัทที่ตกต่ำ

สำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพุธว่า ในช่วง 10 เดือนแรก ผลกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมของจีนลดลง 4.3% จากปีที่แล้ว เทียบกับการลดลง 3.5% ในช่วง 9 เดือนแรก
เทรดเดอร์ในเอเชียยังประเมินข้อมูลเงินเฟ้อจากออสเตรเลียด้วย ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 2.1% ในเดือนตุลาคมเมื่อเทียบเป็นรายปี ต่ำกว่า 2.3% ที่นักเศรษฐศาสตร์คาด

วาระภาษีของทรัมป์ได้รับแรงผลักดันเพิ่มเติมในวันพุธ โดยทีมเตรียมการเปลี่ยนผ่านกล่าวว่ากำลังเตรียมประกาศให้ Jamieson Greer เป็นผู้แทนการค้าสหรัฐฯ Greer มีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดในการตัดสินใจนโยบายการค้าระยะแรกของทรัมป์

เฟรเดริก นูมันน์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์เอเชียของ HSBC Holdings Plc กล่าวว่าแนวโน้มของการเก็บภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ ต่อไปยังคงเป็นความกังวลของตลาดเอเชีย และหากได้รับการยืนยัน การแต่งตั้ง Greer เป็น USTR บ่งชี้ถึงจุดยืนทางการค้าที่เข้มงวดมากขึ้นของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของทรัมป์

ความกังวลต่อความตึงเครียดในตะวันออกกลางผ่อนคลายลงบ้าง จากการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวว่าอิสราเอลบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน หลังจากการเจรจาหลายสัปดาห์โดยสหรัฐฯ เป็นสื่อกลาง

นักลงทุนยังจับตาการรายงานข้อมูลเศรษฐกิของสหรัฐฯ ทั้งอัตราเงินเฟ้อและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่อาจเป็นตัวบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะตัดสินใจอย่างไรในเดือนธันวาคม

ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 3,276.37 จุด เพิ่มขึ้น 16.61 จุด, +0.51%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 19,252.12 จุด เพิ่มขึ้น 92.92 จุด, +0.48%
ดัชนี Kospi ตลาดหุ้นเกาหลีอยู่ที่ 2,520.08 จุด ลดลง 0.28 จุด, -0.01%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ 22,571.69 จุด ลดลง 107.07 จุด, -0.47%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคมไม่เปลี่ยนแปลง ซื้อขายที่ 68.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 0.05 ดอลลาร์ หรือ 0.07% ซื้อขายที่ 72.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
———————————————————————————————————————————————————–