“ชูวิทย์” บิ๊ก NER ยันถือหุ้นครบ 100% โชว์ปิดบุ๊ค 12 พ.ย.นี้

“ชูวิทย์” ซีอีโอ NER ปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น หาคนทุบหุ้น กดราคาต่ำไอพีโอ ยืนยันหุ้นเจ้าของอยู่ครบ 100% ที่ศูนย์รับฝากฯ ยังไม่ได้เข้าพอร์ต ย้ำหนักแน่น ทำหน้าที่ให้ผลประกอบการออกมาดีที่สุด บริษัทไม่มีความเสี่ยงเรื่องขาดทุนจากการขายสินค้า มั่นใจหุ้น NER ถือลงทุนระยะยาว ผลตอบแทนเงินปันผลดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก

นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ ( NER ) เปิดเผย www.hoonsmart.com ว่า บริษัทอยู่ระหว่างการหาสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น NER ซื้อขายวันแรกต่ำกว่าราคาเสนอขายประชาชนครั้งแรก ( IPO ) 2.58 ล้านบาท โดยยืนยันว่านายชูวิทย์ และครอบครัว ไม่ได้ขายออกมาแม้แต่หุ้นเดียวตามที่มีข่าว โดยหุ้นทั้งหมดของตนเอง ฝากอยู่ที่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ ( TSD ) ยังไม่ได้นำเข้าพอร์ตที่โบรกเกอร์

นอกจากนี้ได้ขอ TSD ปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นแล้ว ซึ่งจะได้ภายใน 3 วันหรือภายในวันที่ 12 พ.ย.นี้ หาชื่อผู้ถือหุ้นที่ขายหุ้นออก และผู้ถือหุ้นที่ซื้อหุ้น

นายชูวิทย์ กล่าวว่า การกระขายหุ้น IPO มีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนมากกว่า 6,300 ราย จากจำนวนหุ้น IPO ที่เสนอขายทั้งหมด 600 ล้านหุ้น ราคาเสนอขาย 2.58 บาท กำหนดราคาช่วงตลาดหุ้นซบเซาวันที่ 22ตุลาคม ซึ่งเป็นราคาที่มีส่วนลด 40 % จากราคาประเมินของบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน ที่ให้ราคาเหมาะสมไว้ 4.20 บาท

สำหรับความเสี่ยงที่นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้ายางล่วงหน้า นั้น นายชูวิทย์ กล่าวว่า บริษัท ฯ ทำทุกอย่้างให้เป็นปัจจุบัน มากที่สุด เพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งการซื้อขายยางพาราทุกวัน แต่มีการส่งมอบ 4 เดือนข้างหน้า มีแค่ภาระดอกเบี้ยจากการเก็บสินค้า เพื่อรอส่งมอบอีก 4 เดือนข้างหน้า เดือนละ 0.25 บาท ต่อกิโลกรัม หรือ 1 บาท/4 เดือนก่อนส่งมอบ ถือว่าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับราคายางที่ผันผวน 10-20 บาท ดังนั้นภาระดอกเบี้ย เป็นความเสี่ยงที่ NER ปิดได้

ส่วนความเสี่ยงช่วงยางขาลง มีเรื่องเดียวคือ ลูกค้าไม่รับของ ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีลูกค้าไม่รับสินค้า เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ของ NER จำนวน 22 ราย ที่ซื้อขายกันประจำ เป็นลูกค้ารายใหญ่ มีชื่อเสียง ซึ่งรักษาชื่อเสียงมากกว่าเงินไม่กี่ล้านบาท ส่วนลูกค้ารายใหม่ที่ไม่เคยซื้อสินค้ากันมาก่อน จะให้เปิดแอลซีก่อน

“ลูกค้าเก่า NER เป็นผู้ใช้ยางโตรงตรง เป็นลูกรายใหญ่ที่มีบริษัทแม่ในต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ จีน , ญี่ปุ่น วันที่ลูกค้าไม่รับของ คือวันที่บริษัทเหล่านั้นเลิกกิจการ ซึ่ง 5-10 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีวันที่ลูกค้าไม่รับสินค้า บริษัททำทุกอย่างให้เป็นปัจจุบันมากที่สุด เพื่อลดความเสี่ยง สินค้าที่ซื้อมา ซื้อขาย ขายจริง รอส่งมอบตามวันเวลา ที่ระบุในสัญญา มีการฟิกซ์ราคา จำนวน และสถานที่จัดส่ง ฟิกซ์อัตราแลกเปลี่ยน 80% ของยอดขาย”

นายชูวิทย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า มีความตั้งใจทำงานให้ดี เพื่อผลประกอบการที่ดีที่สุด เป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องการมากที่สุด มากกว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้น โดยไม่มีปัจจัยสนับสนุนการลงทุน ถือเป็นความเสี่ยง

“ถ้าเราทำงานดี ผลประกอบการออกมาดี ราคาหุ้นจะกลับมา ซึ่งต้องใช้เวลา แต่เรายังมั่นใจผลประกอบการของเรา จากวิธีการทำงานที่ไม่มีความเสี่ยง (ย้ำหนักแน่น ) เรื่องขาดทุนการดำเนินงาน แต่กำไรไม่หวือหวา มาร์จิ้น 5-10 % ก่อนหักค่าใช้จ่าย ไม่เก็งกำไรสินค้า ซื้อยางมาวันนี้ บวกค่าการผลิตและกำไร แล้วขายยางออกทันที”

นายชูวิทย์ ให้คำนิยาม หุ้น NER ว่า เป็นหุ้นลงทุนระยะยาว ผลตอบแทนจากเงินปันผลอย่างน้อย 4 % สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก แม้ว่ากำไรสุทธิจากการดำเนินงานไม่มาก แต่ความเสี่ยงแทบไม่มี

ด้านราคาหุ้น NER วันนี้ เปิดตลาดพุ่งขึ้นมาเปิด 2.16 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท สูงสุด 2.18 บาท