TRP แจกกำไร 17.86% มั่นใจโค้งสุดท้ายโดดเด่น

HoonSmart.com >> TRP เทรด mai วันแรก เปิด 16.50 บาท ทะยาน 17.86%  “ผศ.นพ.ชลทิศ สินรัชตานันท์” ซีอีโอ  มั่นใจไตรมาส 4 ผลงานโดดเด่น หนุนรายได้ปี 66 โตตามเป้า

หุ้นน้องใหม่ บริษัท เอสเตติก คอนเนค ( TRP) ผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลด้านคลินิกเวชกรรม “ธีรพรคลินิก” เข้าซื้อขายตลาด mai วันแรก 24 ต.ค. ราคาเปิด 16.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 17.86% จากราคาไอพีโอ 14 บาท

ผศ.นพ. ชลธิศ สินรัชตานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  TRP กล่าวว่า ราคาหุ้นวันแรก ปรับตัวเพิ่มขึ้น   สะท้อนความเชื่อมั่นธุรกิจของบริษัท  ปัจจัยสำคัญในความสำเร็จ คือ ธุรกิจศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้ามากว่า 40 ปี โดยอาจารย์แพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทาง มีประสบการณ์เฉลี่ยมากกว่า 17 ปี และได้รับการศึกษาเพิ่มเติมในหลักสูตรศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า (Facial Plastic Surgery) พร้อมให้บริการด้วยระบบทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญชำนาญการเฉพาะจุด มีระบบการควบคุมคุณภาพ หรือ QC (Quality Control) เพื่อรักษามาตรฐานเดียวกัน

“ธีรพร”  มีนวัตกรรมการผ่าตัดที่เป็นเทคนิคเฉพาะ เช่น การทำศัลยกรรมดึงหน้า (FACE-LOCK), การผ่าตัดศัลยกรรมตาสองชั้น (EYE-LOCK) และการเสริมจมูกด้วยไขมันตัวเอง (FAT STEM CELL) นับเป็นผู้นำนวัตกรรมด้านศัลยกรรมตกแต่งความงามบนใบหน้าในระดับ Premium

บริษัท ฯ เดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่องตามกลยุทธ์การเติบโต  นำเงินที่ได้จากการระดมทุน ประมาณ 1,215.28 ล้านบาท (ภายหลังหักค่าใช้จ่ายการเสนอขาย) ไปก่อสร้างโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย จำนวน 450 ล้านบาท, จัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ 80 ล้านบาท, ชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน 95.44 ล้านบาท และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ การลงทุนอื่น ๆ และการขยายธุรกิจของบริษัทในอนาคต

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566  คาดเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2566  และไตรมาส 4/2566 คาดมีรายได้เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน จากจำนวนลูกค้าที่กลับเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีลูกค้าที่ทำศัลยกรรมจากที่อื่น เข้ามาให้  แก้ไขปัญหาต่าง ๆ บนใบหน้าที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น การเพิ่มสินค้าใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสริมจมูกด้วยไขมันตัวเอง (FAT STEM CELL) รวมถึงการเพิ่มการรับรู้แบรนด์ “ธีรพรคลินิก” ในวงกว้างได้มากขึ้น ซึ่งการเข้าตลาดหุ้นเป็นปัจจัยสนับสนุนผลการดำเนินงานปี 2566 เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้

“ขอขอบคุณนักลงทุน ที่ให้การต้อนรับหุ้น TRP อย่างอบอุ่น โดยทีมผู้บริหาร แพทย์ และพนักงานทุกคน พร้อมมุ่งมั่นให้บริการศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าด้วยความตั้งใจ เพื่อสร้างสรรค์ความสวยงามให้กับผู้มารับบริการให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจเสริมศักยภาพตามแผน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน” ผู้ช่วยศาตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ กล่าว

นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การเปิดซื้อขายหุ้นวันแรกในราคาเปิดเหนือจอง ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของ TRP สะท้อนความเชื่อมั่นที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ศักยภาพการดำเนินธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในฐานะผู้นำการให้บริการศัลยกรรมความงามเฉพาะบนใบหน้าแก่บุคคลทั่วไป โดยทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า ด้วยนวัตกรรมการผ่าตัดที่เป็นเทคนิคเฉพาะของธีรพร เช่น FACE-LOCK, EYE-LOCK และ FAT STEM CELL ที่คิดค้น วิจัยและพัฒนา โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง

สะท้อนได้จากผลการดำเนินงาน 3 ปีที่ผ่านมา ปี 2563-2565 บริษัท มีรายได้รวม 221.60 ล้านบาท 427.76 ล้านบาท และ 854.07 ล้านบาท ตามลำดับ และกำไรสุทธิ 37.15 ล้านบาท 112.68 ล้านบาท และ 270.27 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนงวด 6 เดือนแรก ปี 2566 มีรายได้รวม 369.05 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 105.48 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มการดำเนินงานในครึ่งปีหลังของปี 2566 ยังเติบโตในทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก เนื่องด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น เทรนด์การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย และผู้คนในยุคปัจจุบันโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่หันมารักสวยรักงาม ใส่ใจรูปร่างหน้าตาของตัวเองกันมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจศัลยกรมมตกแต่งเฉพาะบนใบหน้ามีแนวโน้มการเติบโตที่ดีและยังไปได้อีกไกล สะท้อนภาพของการเป็นหุ้น Growth Stock และ Dividend Stock

นายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก ในฐานะแกนนำจัดจำหน่ายหุ้น TRP กล่าวว่า การกำหนดราคา IPO หุ้นละ 14 บาท พี/อี 21.12 เท่า  มีความเหมาะสมจากลักษณะธุรกิจที่สามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจเข้าลงทุนเป็นจำนวนมาก ด้วยความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และศักยภาพการเติบโตหลังจากนี้ ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะบนใบหน้าของเมืองไทย  ขณะที่  P/E  ธุรกิจที่ใกล้เคียงกันในตลาด mai ที่มี P/E เฉลี่ย 33-39 เท่า