CGSI คาดหุ้นวันนี้พักฐาน DELTA ใช้แคชบาลานซ์เริ่มวันนี้

HoonSmart.com>>บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI คาดตลาดหุ้นพักฐานราว 10 จุด เล็ง DELTA ร่วงราว 10% หลัง DELTA ติดแคชแคชบาลานซ์ระดับ 1 เริ่มวันนี้ถึง 11 ธ.ค.67 กรอบวันนี้ 1,445-1,455 จุด พร้อมเชียร์ CPALL, AMATA

บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGIS คาดว่า SET Index จะพักฐานราว 10 จุดจากประเด็นหุ้น DELTA โดย ตลาดหลักทรัพย์ฯ (ตลท.) ประกาศให้ DELTA ติดแคชบาลานซ์ระดับ 1 เริ่มตั้งแต่ 21 พ.ย.67 ถึง 11 ธ.ค.67 โดย หากอิงจากสถิติจากเกณฑ์การติดแคชบาลานซ์ ราคาหุ้น DELTA จะปรับตัวลดลงโดยเฉลี่ยในวันต่อมาราว 10.1% จากการคำนวณ

ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้วันนี้มองกรอบดัชนี 1,445-1,455 จุด และ ยังคงมุมมองว่า SET จะสามารถยืนเหนือ 1,450 จุดได้ หากหลุด 1,450 จุด มองเป็นจังหวะในการเข้าสะสมหุ้นไทยเพิ่มเติม จากปัจจัยหนุนในประเทศ ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังการประชุมบอร์ดเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 19 พ.ย. มีมติ 1) อนุมัติโครงการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 สำหรับผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป วงเงินประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ก่อนวันที่ 29 ม.ค. 2568 2) การให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนให้เบ็ดเสร็จอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถ และ SME และ 3) เห็นชอบการแจกเงินไร่ละ 1,000 บาท เพื่อช่วยบรรเทาภาระหนี้ของเกษตรกร รวมถึง ภาพรวมเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ปี 2567 (+3% yoy) ที่ออกมาดีกว่าคาด โดยยังมองว่าเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ปี 2567 มีโอกาสขยายตัว 4% yoy เป็นอย่างน้อยจากการแจกเงินรอบแรกและไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว

สำหรับตัวเลขและประเด็นทางเศรษฐกิจในประเทศหลังอัยการสูงสุด ไม่รับดำเนินการ คดีทักษิณ – เพื่อไทยล้มล้างการปกครอง จับตาวันศุกร์นี้ 22 พ.ย.2567 กรณีศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณารับ-ไม่รับคำร้อง ทักษิณ ชินวัตร ล้มล้างการปกครองฯ โดย เราคาดว่าศาลรัฐธรรมนูญน่าจะตัดสินว่าพรรคเพื่อไทยและนายกฯ แพทองธาร ไม่มีความผิด

สำหรับปัจจัยต่างประเทศ สถานการณ์ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์คลายตัวลงหลัง นาย วลาดิเมียร์ ปูตินกล่าวว่าพร้อมพูดคุยและหารือกับ นาย โดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับการยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบและสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำย่อตัวหลังปรับขึ้นแรงและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น

หุ้นแนะนำ CPALL มีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 6.2 พันล้านบาท (+44% yoy, +1% qoq) ในไตรมาส 3 ปี 2567 หรือสูงกว่าประมาณการของเรา 4% และสูงกว่า Bloomberg consensus 9% โดยมีปัจจัยหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่สูงกว่าคาดของธุรกิจร้านสะดวกซื้อและกำไรที่แข็งแกร่งกว่าคาดของ CPAXT โดย ร้าน 7-Eleven ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ +3.3% ในไตรมาส 3 ปี 2567 หนุนโดย ยอดซื้อต่อบิลที่เพิ่มขึ้น 2.4% yoy และจำนวนลูกค้าที่เข้ามาในร้านเพิ่มขึ้น 0.5% yoy พร้อมคาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 4 ปี 2567 จะยังมีอัตราการเติบโตแข็งแกร่ง yoy แม้จะต่ำกว่าในไตรมาส 3 ปี 2567 เล็กน้อย หลังผลดีจากค่าไฟฟ้าที่ลดลงค่อยๆ หมดไป (Take profit : 64.75 / Stop loss : 62.00)

AMATA มีกำไรสุทธิเติบโตสูงถึง 231% qoq และ 93% yoy เป็น 765.1 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2567 เพราะยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินฟื้นตัวแข็งแกร่ง และ SG&A, ดอกเบี้ยจ่ายและส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยต่ำกว่าคาด และคาดว่ายอดขายที่ดินใหม่และยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจะเพิ่มเป็น 2,500 ไร่และ 1,285 ไร่ในปี 2567 AMATA มียอด backlog สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.94 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2567 ซึ่งแบ่งเป็น backlog ใน ไทย 1.76 หมื่นล้านบาทและในเวียดนามอีก 1.8 พันล้านบาท โดย backlog ในไทยจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 4 ปี 2567-ปั 2685 ส่วน backlog ในเวียดนามจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2569 จึงคาดว่าไตรมาส 4 ปี 2567 จะเป็นไตรมาสที่ AMATA ทำกำไรสุทธิสูงสุดในปีนี (Take profit : 29.25 / Stop loss : 27.50)

 
 
———————————————————————————————————————————————————–