“TRP” เทรด mai 24 ต.ค.นี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ยันไม่ขายหุ้นหลังIPO

HoonSmart.com>>เอสเตติก คอนเนค (TRP) พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai เป็นวันแรก 24 ต.ค. 66 นี้มั่นใจกระแสการตอบรับดีเยี่ยม ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ให้คำมั่นจะไม่ขายหุ้นออกมาในตลาดหลัง IPO เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน เตรียมต่อยอดธุรกิจการเป็นโรงพยาบาลตกแต่งเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย ดันผลงานโตก้าวกระโดด

นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเตติก คอนเนค (TRP) ผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลด้านคลินิกเวชกรรม ภายใต้ชื่อ ธีรพรคลินิก ที่ให้บริการศัลยกรรมความงามบนใบหน้าแก่บุคคลทั่วไป เปิดเผยถึงการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 24 ต.ค. 2566 เป็นวันแรก มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน แม้ภาวะตลาดหุ้นในช่วงนี้จะค่อนข้างผันผวน เนื่องด้วย TRP เป็นผู้เชี่ยวชาญการให้บริการศัลยกรรมความงามเฉพาะบนใบหน้าแก่บุคคลทั่วไป โดยทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า ด้วยนวัตกรรมการผ่าตัดที่เป็นเทคนิคเฉพาะของธีรพร เช่น การทำศัลยกรรมดึงหน้า (FACE-LOCK), การผ่าตัดศัลยกรรมตาสองชั้น (EYE-LOCK) และการเสริมจมูกด้วยไขมันตัวเอง (FAT STEM CELL) ที่คิดค้น วิจัยและพัฒนา โดยนายแพทย์ชลธิศ มาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา จึงได้รับความไว้วางใจจากผู้รับบริการทุกเพศทุกวัยมาโดยตลอด

รวมถึงเป็นหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมศัลยกรรมความงามที่มีแนวโน้มการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีผลการดำเนินงานโดดเด่น โดยปี 2563-2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 221 ล้านบาท 427 ล้านบาท และ 854 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 37 ล้านบาท 112 ล้านบาท และ 270 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการงวด 6 เดือนแรก ปี 2566 มีรายได้รวม 369 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 105 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทฯ เน้นกลยุทธ์หลักการบริการ ด้วยมาตรฐานและคุณภาพ ทั้งทีมแพทย์และการให้บริการที่น่าเชื่อถือ ด้วยผลงานอันโดดเด่นเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง และเป็นผู้นำนวัตกรรมด้านศัลยกรรมตกแต่งความงามบนใบหน้าที่อาศัยการบอกปากต่อปากของลูกค้า (Word of mouth) มีความ premium ไม่ใช้นโยบายการแข่งขันด้วยการลดราคาค่าบริการ

สำหรับ เงินที่ได้จากการระดมทุน ประมาณ 1,215.28 ล้านบาท (ภายหลังหักค่าใช้จ่ายการเสนอขาย) จะนำไปก่อสร้างโรงพยาบาลตกแต่งเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย, จัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์, ชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน และส่วนที่เหลือเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ การลงทุนอื่นๆ และการขยายธุรกิจของบริษัทในอนาคต

“การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจตามนโยบายและแผนงานที่วางไว้ในระยะยาว พร้อมสร้างการเติบโตด้วยความพร้อมของฐานเงินทุน เพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตในอนาคต และเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้มีส่วนร่วมในการลงทุนกับบริษัท” นายแพทย์ชลธิศ กล่าว

ขณะที่ นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 24 ต.ค. 2566 TRPจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง สามารถสร้างโอกาสในการเติบโตในระยะยาวและสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุนอย่างต่อเนื่อง ในฐานะผู้นำด้านศัลยกรรมความงามบนใบหน้า และกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามบนใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย พร้อมมองว่า การดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตที่ดี สะท้อนภาพการเป็นหุ้น Growth Stock และ Dividend Stock สอดรับกับการฟื้นตัวในภาพรวมของเศรษฐกิจและการลงทุนภายในประเทศขณะนี้

ทั้งนี้ ภายหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ไปแล้ว ขอให้นักลงทุนมั่นใจในเสถียรภาพ กลยุทธ์การลงทุนและการบริหารงาน โดยกลุ่มผู้บริหารของบริษัท และบริษัท สานฝันโฮลดิ้ง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ พร้อมให้คำมั่นว่าจะไม่มีการขายหุ้นออกมาในตลาดหลัง IPO เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน

ด้าน นายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า หลังจากเปิดขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 90 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 14 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาทเมื่อวันที่ 10-12 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้นครบทั้งหมด สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่มีความแข็งแกร่งของบริษัท และมองเห็นศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ TRP มีกำหนดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจบริการ (Service) วันที่ 24 ต.ค. 2566 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ ว่า “TRP”