ดาวโจนส์ปิดลบ 55 จุด จับตาผลประกอบการ

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดลบ 55 จุด รอผลประกอบการของ Nvidia ส่วนดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น  จากหุ้น Tesla รับกระแสทรัมป์หาวิธีผ่อนคลายกฎระเบียบเกี่ยวกับรถยนต์ EV ด้านตลาดยุโรปปิดลบ ตามหุ้นอสังหาริมทรัพย์เกาะทิศทางของอัตราดอกเบี้ยในอนาคต  หุ้นพลังงานบวกรับราคาน้ำมันดิบพุ่งแรง 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 18  พ.ย. 2567 ปิดที่ 43,389.60 จุด ลดลง 55.39 จุด หรือ -0.13% แต่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปรับขึ้น จากการเพิ่มขึ้นของหุ้น Tesla ขณะที่นักลงทุนรอผลการดำเนินงานของ Nvidia

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,893.62 จุด เพิ่มขึ้น 23.00 จุด, +0.39%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,791.81 จุด เพิ่มขึ้น 111.69 จุด, +0.60%

หุ้น Tesla นำการปรับขึ้นในดัชนี Nasdaq โดยพุ่งขึ้น 5.6% จากรายงานของ Bloomberg News ที่อ้างคนวงในว่า ทีมงานของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี กำลังดำเนินการหาวิธีผ่อนคลายกฎระเบียบเกี่ยวกับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตนเอง หุ้น Apple และ หุ้น Netflix เพิ่มขึ้น 1.3% และ 2.8% ตามลำดับ หุ้น Advanced Micro Devices เพิ่มขึ้น 3%

สกายเลอร์ ไวนันด์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Regan Capital กล่าวว่า มีหุ้นทั้งที่ได้ประโยชน์และไม่ได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอีลอน มัสก์ และหุ้นใหญ่ ตอนนี้ทรัมป์ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีและได้กลับมุมมองเกี่ยวกับรถ EV และการเครดิตภาษีรถ EV และการที่ฝ่ายบริหารสนับสนุนรถ EV อาจเป็นผลดีอย่างมากสำหรับ Tesla

ในขณะเดียวกัน นักลงทุนก็รอการรายงานผลประกอบการไตรมาสสามของ Nvidia ในวันพุธ ซึ่งอาจเป็นตัวเร่งสำคัญ ในขณะที่ตลาดพยายามหาสัญญาณการความต้องการชิป Blackwell AI ของบริษัท แต่ราคาหุ้นลดลง 1.3% หลังจากที่ The Information รายงานว่าชิปร้อนมากเกินไปเมื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์

“ดาวเด่นในสัปดาห์นี้คือเพื่อนของเรา Nvidia” Kim Forrest ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Bokeh Capital Partners กล่าว โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของดัชนีดังกล่าวต่อดัชนีหลักทั้งหมดที่มีการรวมอยู่ใน Dow ล่าสุด “หากไม่มีข้อมูลออกมาก่อนหน้านั้น ตลาดจะรอดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับ Nvidia

นอกจาก Nvidia แล้ว นักลงทุนยังรอการรายงานผลการดำเนินงานจากบริษัทค้าปลีกรายใหญ่จำนวนหนึ่ง ซึ่งจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของผู้บริโภคได้ดีขึ้น ข้อมูลของ FactSet ระบุว่า จนถึงขณะนี้ ประมาณ 93% ของบริษัท S&P 500 รายงานผลประกบอการแล้ว โดยที่กว่า 74% มีกำไรสูงเกินคาด และ 62%มีรายได้มากกว่าคาดการณ์

นักลงทุนยังจับตาผลประกอบการของ Walmart, Lowe’s และ Target บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินความแข็งแกร่งของผู้บริโภคในสหรัฐฯ ในขณะที่เทศกาลช้อปปิ้งช่วงวันหยุดสำคัญกำลังจะเริ่มขึ้น

ส่วนความเคลื่อนไหวหุ้นรายตัว หุ้น CVS Health บริษัทประกันสุขภาพเพิ่มขึ้นกว่า 5% หลังจากที่ตั้งกรรมการใหม่เพิ่มสี่คน ตามที่ได้ตกลงกับกองทุนเฮจด์ฟันด์ Glenview Capital Management นักลงทุนรายใหญ่

จิม เรด หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์ระดับโลกและการวิจัยเฉพาะเรื่อง ของ Deutsche Bank กล่าวว่า สัปดาห์นี้ตลาดนาจะเงียบ เนื่องจากกระแสเศรษฐกิจมหภาคของสหรัฐฯ และกระแสข่าวการเมืองชะลอลง แต่ประเด็นหลักที่อยู่ในความสนใจคือการแต่งตั้งผู้ที่จะเข้ามาเป็นคณะบริหารของทรัมป์ชุดใหม่

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการรายงานในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนพฤศจิกายนจาก S&P Global และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

ตลาดยุโรปปิดลบเมื่อเริ่มต้นสัปดาห์ จากการลดลงของหุ้นอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่นักลงทุนเตรียมวิเคราะห์สุนทรพจน์ของผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป(ECB) เพื่อประเมินทิศทางของอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

หุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยนำการปรับลง ขณะที่หุ้นเทคโนโลยีของยุโรปลดลง 0.4% ก่อน การรายงานผลประกอบการรายไตรมาสของ Nvidia ในวันพุธ

หุ้นกลุ่มพลังงานขนาดใหญ่ขยับขึ้น 0.8% จากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นมากกว่า 2% จากรายงานข่าวที่ว่า มีการระงับการผลิตน้ำมันที่แหล่งน้ำมันของ Johan Sverdrup บริษัทยักษ์ใหญ่ของนอร์เวย์ ทำให้ราคาน้ำมันขึ้นไปอีกจากที่สูงขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนอยู่แล้ว

กลุ่มทรัพยากรพื้นฐานเพิ่มขึ้นมากสุด โดยเพิ่มขึ้น 0.6% จากราคาทองแดงพุ่งสูงขึ้น

นักลงทุนกำลังรอการกล่าวสุนทรพจน์ของนางคริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB ที่จะมีขึ้นหลังปิดตลาด นอกจากนี้รอการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคยูโรโซนเดือนตุลาคมในวันอังคาร และ ดัชนี PMI ของเดือนพฤศจิกายนในวันศุกร์

ผู้กำหนดนโยบายธนาคารกลางยุโรปรายใหญ่ 2 รายส่งสัญญาณว่า มีกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการเก็บภาษีนำเข้าครั้งใหม่ของสหรัฐฯต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในยูโรโซนมากกว่าผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ

ยานนิส สตูร์นาร์ จาก ECB กล่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ภายในสิ้นปีถือว่ามีความเหมาะสม

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 502.84 จุด ลดลง 0.28 จุด, -0.06%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,109.32 จุด เพิ่มขึ้น 45.71 จุด, +0.57%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,278.23 จุด เพิ่มขึ้น 8.60 จุด, +0.12%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 19,189.19 จุด ลดลง 21.62 จุด, -0.11%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 2.14 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 69.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 2.26 ดอลลาร์ หรือ 3.18% ปิดที่ 73.3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
———————————————————————————————————————————————————–