BGRIM ปี 68 ต้นทุนก๊าซลดลง ความต้องการใช้ไฟเพิ่มขึ้น

HoonSmart.com>> “บี.กริม เพาเวอร์” (BGRIM) เล็งต้นทุนราคาก๊าซปี 68 อยู่แถว 310-340 บาท/MMBTU ลดลงจากปี 67 เริ่มเห็นต้นทุนก๊าซลดลงในไตรมาส 4/67 อีกทั้งความต้องการใช้ไฟเพิ่มขึ้นจากกลุ่มลูกค้า Data center จากการขยายนิคมอมตะที่ชลบุรี และระยอง ด้านหนี้สินทีมีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวม (IBD/E) ปัจจุบันอยู่ประมาณ 1.8 เท่า แต่นโยบาย BGRIM มอง IBD/E ประมาณ 2 เท่า ในระยะยาว ช่วงนี้บริษัทมีแผนขยายการลงทุนค่อนข้างมาก บริษัทจึงอยู่ระหว่างศึกษาทางเลือกการระดมทุน โดยยังไม่พิจารณาการเพิ่มทุนแต่อย่างใด ด้านบล.กรุงศรี แนะนำ”ซื้อเก็งกำไร”ให้ราคาเป้าหมาย 23 บาท ล่าสุดหุ้น BGRIM อยู่ที่ 20.20 บาท

นางสาวศิริวงศ์ บวรบุญฤทัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) เปิดเผยว่า ทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2568 เติบโต 2.9% ขับเคลื่อนด้วยการท่องเที่ยว การบริโภคภาคเอกชน และการส่งออกที่เพิ่มขึ้น ซึ่งยังไม่รวมผลกระทบจาก”ทรัมป์”ที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่วนต้นทุนราคาก๊าซในไตรมาส 4 ปีนี้คาดจะอยู่ที่ 310+/- บาท/MMBTU ลดลงจากช่วงต้นปีที่ผ่านมา ส่วนปี 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ 310-340 บาท/MMBTU ลดลงจากปีนี้ (2567) ที่ต้นทุนราคาก๊าซจะอยู่ที่ 320-350 บาท/MMBTU ซึ่งบริษัทสามารถผลิตก๊าซจากอ่าวไทยได้มากขึ้น และสหรัฐอาจเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันมากขึ้น ทำให้มองผลกระทบในเชิงบวก

นอกจากนี้ ยังมีการเติบโตจากความต้องการใหม่ ในการขยายนิคมอุตสาหกรรมอมตะ (AMATA) ที่ชลบุรี และระยอง ประมาณ 6,000 ไร่ (969 เฮกตาร์) ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนค่อนข้างมาก ทั้งจากจีน และยูโรโซน อีกทั้งยังมีลูกค้าของ BGRIM เข้ามาในระบบและรับรู้รายได้ในปี 2568 ประมาณ 40-50 MW ส่วน LNG ปีนี้ได้นำเข้ามา 2 shipments (การขนส่งทางเรือ) และปีหน้าอาจนำเข้าถึง 5 shipments เพื่อนำมาใช้สำหรับโรงไฟฟ้าของ BGRIM ที่ปัจจุบันเป็นโรงก๊าซ สำหรับ Operating เมกะวัตต์ที่จะเพิ่มมาในระบบ ปีนี้มีเข้ามาในระบบมีโครงการ Malacha hydro ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา, โซลาร์ฟาร์ม ที่ประเทศญ๊่ปุ่น รวมถึงที่คาดการณ์ไว้ว่าปลายปีอาจจะมีการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการลมนอกชายฝั่ง ที่ประเทศเกาหลี สามารถรับรู้รายได้ในปี 2568

รองกรรมการผุ้จัดการใหญ่ กล่าวว่า “ช่วงนี้จะมีความตื่นตัวสำหรับ Data Center เพราะเป็นธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มจะเข้ามาในประเทศไทยค่อนข้างมาก ตอนนี้ก็มีการพูดคุยอยุ่หลายเจ้า ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดของ Data Center ก็คือค่าไฟ จะสังเกตุได้ว่าในอดีต Data Center จะอยู่ในกรุงเทพฯ เพราะฉะนั้นค่าไฟก็จะแพง ปัจจุบันเล็งเห็นว่าควรมีการตั้งอยู่แถวโรงไฟฟ้า สามารถซัพพลายไฟให้ได้ในราคาถูกกว่า แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณและความต้องการใช้ไฟด้วย เวลาเจรจากัน โดยส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม เพราะ Infrastructure ตลอดจนความปลอดภัย ซึ่ง Data Center จะเน้นในเรื่องความปลอดภัย และไฟที่เสถียรและมั่นคง เพราะฉะนั้นอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมก็เป็นทางเลือกที่ดี รวมถึง BGRIM ก็เล็งเห็นตรงจุดนี้แล้วก็มองการทำธุรกิจจะมี 2 แบบ แบบแรกการทำธุรกิจขายไฟให้ Data Center จะเป็นส่วนใหญ่ของ BGRIM ส่วนที่ 2 มีความต้องการจะลงทุนใน Data Center ด้วย เพียงแต่ว่าในสัดส่วนที่อาจเป็นส่วนน้อย เมื่อเทียบกับผู้พัฒนา Data Center”

สำหรับโครงการที่ทำในประเทศลาว จะเป็น Hydro ที่ Operate แล้วจะมีประมาณ 35-40 MW เพราะฉะนั้นจะไม่ได้มีผลกระทบสำคัญต่อ BGRIM อย่างไรก็ตามในเรื่องการชำระค่าไฟ เงื่อนไขของรัฐบาลลาว จะให้ Priority (พวกที่มีสิทธิมาก่อน) ในการชำระไฟ ปัจจุบันก็มีการจ่ายค่าไฟมา

“หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวม (IBD/E) ประมาณ 1.8 เท่า แต่นโยบาย BGRIM มอง IBD/E ประมาณ 2 เท่า ในระยะยาว แต่ช่วงนี้บริษัทมีการขยายค่อนข้างเยอะ ก็อาจพิจารณาการระดมทุน ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาทางเลือกการระดมทุน อย่างเช่นการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ที่มีลักษณะคล้ายทุน เพื่อปรับโครงสร้างเงินทุนของบริษัทได้ นอกจากนี้ก็ยังมีการศึกษาในส่วนอื่น ๆ อยู่ ถ้ามีความชัดเจนจะมาแจ้งให้ทราบ แต่เราก็มอง Infrastructure Fund เป็นอีกเรื่องที่อยู่ในการศึกษา”

ปกติ BGRIM จัดหาเงินกู้จากทางธนาคารที่บริษัทมีความสัมพันธ์ที่ดี และ Capital Market ในเรื่องการออกหุ้นกุ้ ส่วนนี้ได้รับการตอรับจากนักลงทุนค่อนข้างดี ส่วนการเพิ่มทุนทางบริษัทไม่ได้มีการพิจารณาในส่วนนี้ และได้พยายาศึกษาทางเลือกการะดมทุนในรูปแบบอื่น ๆ

บล.กรุงศรี แนะนำ”ซื้อเก็งกำไร”หุ้น BGRIM มีมุมมองบวกจากต้นทุนค่าก๊าซที่คาดจะลดลงในปี 2568 และความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มลูกค้า Data centers และอิเล็กโทรนิกส์ นอกจากนี้หากค่าเงินบาทอ่อนค่าเกิน 2 บาทค่อเหรียญสหรัฐ จะทำให้กำไรมี FX gains อย่างไรก็ดี BGRIM มี IBDE ที่ 2.2 เท่า ณ สิ้นก.ย.2567 และมีเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทย่อยยังเป็นประเด็นที่น่าจับตา พร้อมให้ราคาเป้าหมายที่ 23 บาท

ทั้งนี้ คาดบริษัทจะได้รับประโยชน์จากต้นทุนค่าก๊าซที่คาดว่าจะลดลง YoY มาอยู่ที่ 310-340 บาท/MMBTU ในปี 2568 จากการที่มีสัดส่วนก๊าซจากอ่าวไทยเพิ่มขึ้นเป็น 55% (จากปัจจุบันที่ต่ำกว่า 50%) นอกจากนี้ การที่บริษัทมีแผนนำเข้า LNG ที่ประมาณ 15 MMBTU จะช่วยลดต้นทุนค่าก๊าซของบริษัทได้บางส่วน

พร้อมมอง BGRIM จะสามารถมีกำลังการผลิตไฟรองรับได้ถึง 100 MW ที่นิคม Amata City ชลบุรี และระยอง เพื่อรองรับความต้องการลูกค้าในกลุ่ม Data Center ทั้งนี้สำหรับแผน 3-4 ปี บริษัทอาจจะเพิ่มกำลังการผลิตถึง 500 MW ขึ้นอยู่กับระดับการจัดการบริหาร load ซึ่งบริษัทอาจจะต้องเพิ่มโรงไฟฟ้า gas เพื่อรองรับ

ล่าสุด (15 พ.ย.)หุ้น BGRIM ปิดที่ 20.20 บาท ลดลง 0.20 บาท (-0.98%) มูลค่าซื้อขาย 208.94 ล้านบาท

———————————————————————————————————————————————————–