“คิงส์ฟอร์ด”วางแนวรับ 1,440–1,450 จุด แนะ ANI-SYNEX

HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด คาดFund Flow ต่างชาติในกลุ่มอาเซียนยังชะลอตัว กังวลมาตรการทรัมป์ แนวรับดัชนี 1,440 – 1,450 จุด ส่วนแนวต้าน 1,460 – 1,470 จุด ติดตามประชุมครม. มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แนะทยอยซื้อบริเวณแนวรับมองกลุ่มค้าปลีก-ท่องเที่ยวได้แรงหนุนไฮซีซั่น เก็งกำไร SAWAD,MTC,KTC จากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ภาคครัวเรือนของ ธปท. หุ้นแนะนำวันนี้ ANI ,SYNEX

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,440 – 1,450 จุด แนวต้าน 1,460 – 1,470 จุด คาด Fund Flow ต่างชาติในกลุ่มอาเซียนยังชะลอตัว จากมาตรการ American First กอรปกับค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าอยู่ที่ 34.6 บาท/ดอลลาร์ ดังนั้นจึงแนะนำทยอยซื้อบริเวณแนวรับ เช่น กลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT,CRC และกลุ่มท่องเที่ยว AOT,AAV,MINT,ERW,SPA ได้แรงหนุนในช่วง High Season เล่นเก็งกำไร SAWAD,MTC,KTC จากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ภาคครัวเรือนของ ธปท.

ประเด็นสำคัญวันนี้ติดตามผลการประชุม ครม.ต่อ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และรายงานกำไรบจ. Q3/67 โดย 220 บจ.ที่ส่งงบแล้วมีกำไรต่ำกว่า BB.Consensus -21.2% และ -39.5% YoY โดยกลุ่มที่มีกำไรดีกว่าคาดคือ บริการสื่อสาร +3.98% และขนส่ง

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐปิดวานนี้ปรับขึ้น DJIA +0.69%, S&P500 +0.10%, Nasdaq +0.06% หลังโดนัล ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี และอาจได้เสียงข้างมากในสภาคองเกรส ช่วยให้สามารถ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ง่ายขึ้น ตลาดจึงได้ปัจจัยหนุนจาก มาตรการลดภาษีนิติบุคคล และลดกฏระเบียบควบคุมต่าง ๆ ของทรัมป์

หุ้นแนะนำ ได้แก่ ANI (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 4.48 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 4Q67 ฟื้นตัว QoQ เนื่องจากเป็นช่วง high season ของการขนส่งสินค้าที่ผู้ประกอบการจะสต๊อกสินค้าเพื่อรองรับการขายในช่วงสิ้นปีและปีใหม่ ประกอบกับค่าระวางการขนส่งทางอากาศทยอยฟื้นตัว และบริษัทฯ เริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเต็มไตรมาสจากการร่วมลงทุนธุรกิจ GSA ในอินเดีย รวมถึงสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนลดลง ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 67-68 ที่ 750 ล้านบาท -7%YoY และ 900 ล้านบาท +20%YoY

หุ้น SYNEX (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 17.35 บาท) กลุ่มสินค้าไอทีมี Demand จากการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ให้ทันกับเทคโนโลยี(4g>5g>AI) รวมถึงการใช้งาน cloud/อุปกรณ์IoT ที่แพร่หลายขึ้น

ส่วนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังนี้ คาดว่าจะยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจาก 1.THB/USD ที่กลับมาแข็งค่าในช่วงก่อน 2.ปัจจัยบวกตามฤดูกาล การเปิดตัวสินค้าใหม่(เช่น iPhone) 3.งบประมาณรายจ่ายของภาครัฐฯปี67 ที่อั้นมาและเริ่มใช้จ่ายในปลาย 2Q67 และ 4.มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภคของรัฐบาล ทั้งนี้ ตลาดคาดว่าในปี67 และ 68 กำไรสุทธิของ SYNEX จะอยู่ที่ระดับ 648 ล้านบาท(+26%YoY) และ 755 ล้านบาท(+17%YoY)