ดาวโจนส์ปิดบวก 288 จุด จ้างงานสูงเกินคาด

HoonSmart.com>>ดัชนีดาวโจนส์ปิดวันที่ 6 ต.ค.2566 ที่ 33,407.58 จุด เพิ่มขึ้น 288.01 จุด นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีหลังข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ดีกว่าคาด ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ 82.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 6 ต.ค.2566 ที่ 33,407.58 จุด เพิ่มขึ้น 288.01 จุด หรือ 0.87% นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีหลังการรายงานข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ดีกว่าคาด

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,308.50 จุด เพิ่มขึ้น 50.31 จุด,+1.18%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,431.34 จุด เพิ่มขึ้น 211.51 จุด,+1.60%

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.3% ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.5% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น1.6% การซื้อขายผันผวนโดยดัชนีดาวโจนส์ช่วงหนึ่งลดลงไปถึง 272 จุด ก่อนที่จะฟื้นตัวเด้งกลับไปกว่า 400 จุด

การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 336,000 ตำแหน่ง สูงกว่า 170,000 ตำแหน่งที่นักวิเคราะห์คาด เกือบ 2 เท่า เป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 8 เดือนแต่ค่าจ้างเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด โดยค่าจ้างรายชั่วโมงเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่า 0.3% และ 4.3% ที่นักวิเคราะห์คาด ขณะที่อัตราว่างงานทรงตัวที่3.8%

โรแบร์ พาฟลิค ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพอร์ตโฟลิโอ ของ Data Wealth กล่าวว่า เศรษฐกิจยังขยายตัว ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะเดียวกันตลาดได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ลดลงในวันนี้ ประกอบกับตลาดถูกเทขายหนักในช่วงก่อนหน้า

นักลงทุนจับตาว่าเฟดจะยุติการขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

เฟดสาขาแอตแลนตา เปิดเผยแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 3 ปีนี้ ขยายตัว 4.9% จากที่เติบโต 2.0% และ 2.1% ในไตรมาส 1 และ 2 ตามลำดับ

อย่างไรก็ตามเครื่องมือ Fed Watch Tool ของ CME บ่งชี้ว่าเทรดเดอร์มองว่ามีโอกาส 43% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งก่อนสิ้นปี

ซีมา ชาห์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนระดับโลกของ Principal Asset Management กล่าวว่าเศรษฐกิจร้อนแรงแทบเกินกว่าจะจัด และเฟดจะต้องดูแลด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก ทำให้ดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงอีกนาน

นักลงทุนรอการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในสัปดาห์หน้า รวมไปถึงการแจ้งผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียน โดยหุ้นกลุ่มธนาคารรายใหญ่ เช่น เจพีมอร์แกน เชส จะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์หน้า

หุ้นเอ็กซอน โมบิลลดลง 1.7% หลังแหล่งข่าวเปิดเผยว่า เอ็กซอนมีความคืบหน้าในการเจรจาซื้อกิจการของไพโอเนียร์ เนเชอรัล รีซอร์สเซส หุ้นไพโอเนียร์เพิ่มขึ้น 10.4%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก แม้การรายงานข้อมูลการจ้างงานเดือนกันยายนสหรัฐฯสูงเกินคาด และบ่งชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯอาจจะปรับสูงขึ้นอีกระยะหนึ่ง

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯแตะระดับสูงสุดรอบ 16 ปี และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนปรับตัวขึ้นหลังการรายงานข้อมูล

แอนเดีย ซิซิโอเน หัวหน้าฝ่ายวิตัยของ TS Lombard กล่าวว่า ข้อมูลการจ้างงานตอกย้ำคาดการณ์ของนักลงทุนที่ว่าอัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้นอีกนาน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรจึงเพิ่มขึ้น

กลุ่มค้าปลีกนำการปรับของตลาด โดยบวก 2.3% จากการเพิ่มขึ้นกว่า 6% ของหุ้น Zalando จากการเจ้าซื้อจองนักลงทุน ด้วยคาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาสสามจะแข็งแกร่ง

ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนีเด่อนสิงหาคมที่เพิ่มขึ้น 3.9% จากเดือนก่อนหน้า ส่วนใหญ่เป็นคอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิคส์และออปติคอล

ราคาบ้านในอังกฤษเดือนกันยายนลดลง 0.4%

โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์เศรษฐกิจยูโรโซนในปี 2024 จะฟื้นตัวมาที่ 1.25%-1.5%

ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 444.93 จุด เพิ่มขึ้น 3.62 จุด, +0.82%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,494.58 จุด เพิ่มขึ้น 43.04 จุด,+0.58%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,060.15 จุด เพิ่มขึ้น 61.90 จุด, +0.88%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,229.77 จุด เพิ่มขึ้น 159.55 จุด, +1.06%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 82.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 51 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 84.58 ดอลลาร์/บาร์เรล