หุ้นเอเชียเช้านี้บวก รับเฟดลดดอกเบี้ย จับตาจีนออกมาตรการการคลัง

HoonSmart.com>> “ตลาดหุ้นเอเชีย” เช้านี้ปรับขึ้นทั้งภูมิภาค หลังธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ตามคาด บวกกับตลาดหุ้นสหรัฐฯยังปรับขึ้นต่อเนื่องเมื่อคืนนี้หลัง ” ทรัมป์”ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี จับตาจีนออกมาตรการการคลัง

ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับขึ้น จากการปรับชึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ตามหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ลง 0.25% ตามคาด

ในกลุ่ม Prime Marke กลุ่มที่นำการปรับขึ้นได้แก่ กลุ่มเครื่องมือชั่งตวงวัด กลุ่มโลหะที่ไม่ใช่เหล็ก และกลุ่มบริการ

การใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่แท้จริงของญี่ปุ่นในเดือนกันยายนลดลง 1.1%จากปีก่อนหน้า โดยลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน เมื่อเทียบเป็นรายเดือน การใช้จ่ายลดลง 1.3% โดยได้รับผลกระทบจากการซื้อรถยนต์ที่ลดลง และผู้บริโภคลดการใช้จ่ายด้านอาหารท่ามกลางราคาที่สูงขึ้น จากข้อมูลของรัฐบาลที่รายงานเมื่อวันศุกร์(8 พ.ย.)
ครัวเรือนที่มีสมาชิก 2 คนขึ้นไปใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 287,963 เยน (1,880 ดอลลาร์)

การใช้จ่ายภาคครัวเรือนเป็นตัวบ่งชี้สำคัญของการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของญี่ปุ่น

ณ เวลา 10.07 น. เวลาในประเทศไทย

ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 39,515.36 จุด เพิ่มขึ้น 133.95 จุด , +0.34%

ตลาดหุ้นเอเชียปรับขึ้นทั้งภูมิภาค หลังที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ตามคาด บวกกับตลาดหุ้นสหรัฐฯยังปรับขึ้นต่อเนื่องเมื่อคืนนี้หลังโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี

ที่ประชุมคณะกรรมการเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย fed fund rate ลงอีก 0.25% มาที่ 4.50-4.75% ตามคาด

แบรด เบคเทล หัวหน้าฝ่าย FX ระดับโลกของ Jefferies LLC กล่าวว่า นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดแสดงความมั่นใจอย่างมากต่อเศรษฐกิจและนโยบายการเงินในปัจจุบัน และชี้ว่ายังเร็วเกินไปที่จะนำนโยบายใหม่จากฝ่ายบริหารชุดใหม่ลงในแบบจำลองการคาดการณ์ ดังนั้นจึงไม่คำนึงถึงผลการเลือกตั้ง การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย ไม่น่าจะส่งผลกระทบสำคัญต่อตลาดในระยะสั้น

นักลงทุนหันความสนใจไปที่วันสุดท้ายของการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติของจีน ซึ่งคาดว่าจะให้ความเห็นชอบมาตรการทางการคลังมูลค่าหลายล้านล้านหยวน ซึ่งอาจชดเชยผลกระทบจากภาษีการค้าที่อาจเกิดขึ้นของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์

มิเชล ลัม นักเศรษฐศาสตร์จีนของ Societe Generale กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวอาจรวมถึงการช่วยเหลือด้านภาระหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นและการใช้จ่ายของผู้บริโภค และตั้งข้อสังเกตว่าการจัดเก็บภาษี 60% ที่ทรัมป์เสนอไว้อาจไม่เกิดขึ้น เพราะมีความไม่แน่นอนมากมายจากการเก็บภาษีของสหรัฐฯแต่อาจเห็นการเพิ่มขึ้นภาษีเล็กน้อยประมาณ 15% ถึง 20% ซึ่งสมเหตุสมผลมากกว่าที่เศรษฐกิจจีนที่จะรับได้

ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 3,477.00 จุด เพิ่มขึ้น 6.34 จุด, +0.18%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 20,982.12 จุด เพิ่มขึ้น 28.78 จุด, +0.14%
ดัชนี Kospi ตลาดหุ้นเกาหลีอยู่ที่ 2,578.89 จุด เพิ่มขึ้น 14.26 จุด, +0.56%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ 23,602.04 จุด เพิ่มขึ้น 193.22 จุด, +0.83%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 0.44 ดอลลาร์ หรือ 0.61% ซื้อขายที่ 71.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 0.35 ดอลลาร์ หรือ 0.46% ซื้อขายที่ 75.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
———————————————————————————————————————————————————–