FSSวางแนวรับหุ้นวันนี้ 1,460 จุด บอนด์ยีลด์-น้ำมัน กดดันตลาดฯ

HoonSmart.com>>ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) คาด SET Index ยังคงแกว่ง Sideways แนวรับหลักบริเวณ Low เดิมที่ 1,460+- จุด ปัจจัยกดดันยังคงเป็น Bond Yield ของสหรัฐฯที่ยังขยับตัวขึ้นต่อเนื่อง หุ้นแนะนำ JPARK ราคาเป้าหมาย 6.40 บาท , BAM มี upside 33% จากราคาเป้าหมาย 14 บาท ให้อัตราผลตอบแทนจากปันผลราว 5% ต่อปี

บล.ฟินันเซีย ไซรัส (FSS)คาด SET Index วันนี้ (3 ต.ค.2566) ยังคงแกว่ง Sideways แนวรับหลักบริเวณ Low เดิมที่ 1,460+- จุด ยังคาดหวังการเกิด Technical Rebound จาก RSI ที่เริ่มอยู่ในเขต Oversold ปัจจัยกดดันยังคงเป็น Bond Yield ของสหรัฐฯที่ยังขยับตัวขึ้นต่อเนื่องจากความกังวลดอกเบี้ยที่อาจยับขยับขึ้นอีกเล็กน้อยและยืนในระดับสูงยาวนาน

ส่วนกลุ่มพลังงานคาดถูกกดดันต่อเนื่องหลังราคาน้ำมันเริ่มพักตัวลงแรง โดยล่าสุด Brent อยู่ที่ 90 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล แต่คาดเป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้าและ Anti-Commodity ด้าน Bond Yield ในประเทศขยับลงเล็กน้อย ช่วยลดแรงกดดันต่อตลาดหุ้นไทยได้บ้าง

ปัจจัยที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้คือตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.ย. ที่จะประกาศในวันพฤหัสฯหากยังอยู่ในระดับต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย 1-3% ของธปท.ต่อเนื่อง
คาดว่าจะช่วยทำให้บรรยากาศการลงทุนผ่อนคลายขึ้นได้ต่อเนื่อง

หุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง ได้แก่ การแพทย์ สื่อสารฯ ธนาคาร เป็นต้นจากแนวโน้มกำไรในไตรมาส 3 ปี 2566 ที่แข็งแรง ขณะที่กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค ได้แก่ ค้าปลีกอาหาร ท่องเที่ยว คาดจะฟื้นตัวได้ระยะถัดไปจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะทยอยออกมาในไตรมาส 4 ปี 2566- 2567 ทั้งการช่วยเหลือค่าครองชีพ พักหนี้เกษตรกร การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท และฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีน

กลยุทธ์ : เลือกหุ้นที่มีโมเมนตัมกำไรไตรมาส 3 ปี 2566 แข็งแกร่ง//ถือลงทุนต่อเนื่องหลังและพิจารณาสะสมเพิ่มหากดัชนีปรับลงหา Low เดิม
1,460+- จุด

หุ้นเด่นวันนี้ : JPARK แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6.40 บาท ทำธุรกิจบริการพื้นที่จอดรถ บริหารจัดการที่จอดรถให้คำปรึกษาและรับติดตั้งระบบที่จอดรถ มีประสบการณ์กว่า 20 ปีและมีศักยภาพการเติบโตที่สูงโดยเป็นผู้นำในธุรกิจ ทำเลพื้นที่จอดรถดีและมีศัยภาพสูงพื้นที่จอดรถไม่เพียงพอกับความต้องการ เนื่องจากปริมาณรถยนต์สะสมเพิ่มขึ้นทุกปีมีพื้นที่เขตเมืองขยายตัว ระบบขนส่งสาธรณะขยายตัวและกระแสเงินสดแข็งแกร่งจากรายได้ที่รับเป็นเงินสดและสม่ำเสมอตามสัญญาเช่าระยะยาว

คาดกำไรปี 2566 ที่ 64 ลบ. +16% y-y และปี 2567 ที่ 102 ลบ. +60% y-y จากการขยายพื้นที่จอดรถตามจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าหลายสาย
และปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการอาคารที่จอดรถ 532 ช่องจอด ของรพ.พระนั่งเกล้าและแบ่งพื้นที่บางส่วนให้เช่าในเชิงพาณิชย์เพื่อสร้างรายได้เพิ่มโดยมีสัญญาเช่า 30 ปี
*** Finansia เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายฯ ***

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนในภูมิภาคไหลเข้า 170 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นำโดยไต้หวัน 167 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนเกาหลีใต้ปิดทำการ
ด้านตลาดอาเซียนเม็ดเงินผสมสานโดยไหลเข้าอินโดนีเซียและเวียดนาม แต่ไหลออกจากไทยและฟิลิปปินส์ สุทธิแล้วประเทศละ 7-20 ล้านเหรียญสหรัฐ
แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังผสมผสานโดยประเด็นกดดันยังคงเป็นความกังวลอัตราดอกเบี้ยของ FED และ Bond Yield
ที่ยังขยับขึ้น จำกัด Upside ของสินทรัพย์เสี่ยงจาก Earnings Yield Gap ที่แคบลง

ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) BAM คาด NPLs ที่ล้นตลาดในปีนี้ เป็นโอกาสให้ BAM เข้าซื้อได้เกินเป้าที่ 11พันลบ. ซึ่งจะสามารถขยายฐานลูกหนี้และนำการเติบโตในปี 2567-2568 แต่ผลประกอบการอาจมีความผันผวนสูงตามลักษณะของธุรกิจ NPA คาดกำไรสุทธิปี 2566 ที่ 2.32 พันลบ. -15% y-y จากการเก็บหนี้ NPLs ที่อ่อนแอในปีนี้แต่ยังได้แรงหนุนจากยอดขาย NPA ที่ขยายตัวดีเกินเป้าจากการทำโปรโมชั่นและออกบูธ ทำให้ยอดเรียกเก็บหนี้ทั้งปีจะทรงตัว y-y

ขณะที่คาดกำไรปี 2567 ที่ 2.46 พันลบ. +6.5% y-y ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายกันที่ PBV ที่ 0.8x ที่ถูกกดดันจากความผันผวนของกำไร แต่มี upside 33% จากราคาเป้าหมาย 14 บาท และให้อัตราผลตอบแทนจากปันผลราว 5% ต่อปี แนะนำ “ซื้อ”

(+) IPO ใหม่ … NAM “นำวิวัฒน์” ทำธุรกิจผลิตนำเข้าและจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับการทำความสะอาดและฆ่า
เชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ มีประสบการณ์กว่า 50 ปี ปัจจุบันมีฐานลูกค้าเป็นโรงพยาบาล 1,200 แห่งทั่วประเทศและมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศและ INNOBIC (บริษัทลูกของปตท.) ประเด็นสำคัญของการลงทุน ได้แก่ อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์เติบโตดีต่อเนื่อง
มีฐานลูกค้าที่มั่นคงและพร้อมขยายไปกับสถานพยาบาลเอกชนและส่งออกไป CLMV มี Recurring Income (30% ของรายได้รวม)
มาจากการผลิตและนำเข้าผลิตวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้ร่วมกับเครื่องมือแพทย์และมี Margin สูง

ด้านผลประกอบการเราคาดกำไรสุทธิปี 2566-2568 เติบโตเฉลี่ยปีละ 28% จากทั้งการเติบโตตามการขยายฐานของลูกค้าโรงพยาบาลปัจจุันที่มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นจาก Aging Society , Medical Tourism, Thailand Medical Hub และแผนการเพิ่มกำลังผลิตเพื่อรองรับการขยายฐานลูกค้าเอกชนและส่งออกในอนาคต ประเมินราคาเป้าหมายของ NAM ที่ 10 บาท (Finansa เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายฯ)