HoonSmart.com >> บล.CGSI คาดการณ์ SET วันนี้ 1,455-1,470 จุด รอความชัดเจนผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พ.ย.นี้ และ การประชุมของ FOMC วันที่ 6-7 พ.ย. ขณะที่ดาวโจนส์ ปรับตัวลง 257 จุด

บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) โดย : Trend Spotter สรุปภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ และทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ (5 พ.ย.) ดังนี้
• ตลาดหุ้นสหรัฐ : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวน ก่อนร่วง -257 จุด หลังนักลงทุนชะลอการซื้อขาย ลดความเสี่ยง เพื่อ
1) เตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันนี้ โดยผลสำรวจล่าสุดของ CNN (4 พ.ย.) ชี้ให้เห็นว่า แฮร์ริส มีคะแนนนำทรัมป์ เล็กน้อยที่ 48-47 เสียง ขณะที่ตัวแปรสำคัญอย่าง 7 รัฐสมรภูมิ ทั้งคู่มีคะแนนที่สูสีกันจนไม่สามารถคาดเดาผลได้
ผลสำรวจล่าสุดนี้ ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่า เนื่องจาก Trump trade ที่ชะลอตัวลง สนับสนุนให้บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ 10 ปี (4.3%) และบิตคอยน์ปรับตัวลดลงมา
2) การประชุม Fed ในวันที่ 6-7 พ.ย. โดยจาก CME FedWatch ระบุว่า ตลาดให้น้ำหนัก 98% ว่า Fed จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25bp สู่ระดับ 4.75%
โดยหุ้นกลุ่มที่เป็นปัจจัยกดดันตลาดหลัก ได้แก่
1) กลุ่มสาธารณูปโภค (-1.2%) หลังจากที่หน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลกลางปฏิเสธคำร้องขอเพิ่มกำลังการการผลิตพลังงานนิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้าของ Talen Energy เพื่อจัดหาพลังงานที่มากขึ้นให้กับ Data center ของ amazon
2) INTC (-2.9%) ที่จะถูกถอดออกจากดัชนี DJIA และ
3) MAR (-1.6%) หลังบริษัทปรับคาดการณ์กำไร 2024 ลดลง จากอุปสงค์การเดินทางที่อ่อนแอลงในจีนและสหรัฐฯ
ด้านตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญวันนี้ ติดตาม รายงานดัชนี PMI ภาคการบริการสหรัฐฯ เดือนต.ค.
• SET Index :
เราคาดว่า SET Index จะเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบแคบบริเวณ 1,455-1,470 จุด เพื่อลดความเสี่ยง รอความชัดเจนผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันนี้ และ การประชุมของ FOMC ในวันที่ 6-7 พ.ย.
สำหรับปัจจัยในประเทศ พรุ่งนี้ (6 พ.ย.) ติดตาม รายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. ที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 0.96% yoy (vs. เดือนก.ย. 0.61%) และ รายงานผลประกอบการ 3Q24 ของบจ. ไทย วันนี้ ได้แก่ ITC, DOHOME และ SCCC
• หุ้นแนะนำ
PTTEP :
เราเชื่อว่า PTTEP จะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น (เบรนท์ +2.7%) หลังกลุ่ม OPEC+ ประกาศเลื่อนแผนเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 1 เดือน
เรายังแนะนำ “ซื้อ” PTTEP เพราะ เชื่อว่าบริษัทมีความเสี่ยงด้านการกำกับดูแลน้อยกว่าผู้ประกอบการรายอื่นในไทย
(Take profit : 128.50 / Stop loss : 125.50)
ERW :
YTD ราคาหุ้นของ ERW ต่ำกว่าหุ้นในกลุ่มเดียวกัน โดยลดลง 23% (เทียบกับ CENTEL -20% MINT -8% และ SHR -4%) แม้ว่า RevPAR จะสะดุดลงเนื่องจากเหตุการณ์วางยาพิษที่โรงแรม Grand Hyatt Erawan Bangkok แต่เราเชื่อว่าแนวโน้ม 4Q24F/1H25F ยังคงแข็งแกร่ง
(Take profit : 4.18 / Stop loss : 3.88)
#MacroWealthResearch
#CGSInternational
