7 แบงก์ ฟาดกำไร Q3 รวม 5.14 หมื่นลบ. โต 15% BBL-KTB-TTB เด่น

HoonSmart.com>>บล.กรุงศรีฯคาด 7 แบงก์ฟันกำไร 5.14 หมื่นล้านบาทไตรมาสที่ 3/66  โต 15%  ได้ดอกเบี้ยขึ้นหนุน NIM  คาด BBL, KTB และ TTB ผลงานโดดเด่น บล.เมย์แบงก์คาดกลุ่มแบงก์มีกำไรรวม 4.87 หมื่นล้านบาท โต 9% ส่วน KKP-SCB ฝีมือตก บล.หยวนต้าแนะนำสะสม KBANK 

บล.กรุงศรี พัฒนสิน คาดกลุ่มธนาคาร 7 แห่งที่ศึกษามีกำไรสุทธิไตรมาสที่ 3/2566 อยู่ที่ 5.14 หมื่นล้านบาท +15% จากระยะเดียวกันปีก่อน (YoY) เพราะการเพิ่มขึ้นส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) จากการเพิ่มขึ้นของ yield on loan ส่วนกำไรคาดลดลง -1% เทียบกับไตรมาสที่ 2 (QoQ) เพราะการลดลงของเงินลงทุนค่าธรรมเนียม-บริการ และการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL)

“ธนาคารที่มีกำไรเด่นเติบโตทั้ง YoY และ QoQ คือ BBL, KTB และ TTB หุ้นเด่นเลือก BBL, KTB”บล.กรุงศรีระบุ

ด้านบล.เมย์แบงก์ยังคงแนะนำซื้อ BBL และ KTB เป็น Top Picks เนื่องจากมี NIM ที่สูงกว่าและคุณภาพสินทรัพย์ที่มั่นคง ประเมิน NIM ทั้งกลุ่มเติบโต QoQ ในไตรมาส 3/66 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากสินเชื่อและการลงทุนในสินทรัพย์สภาพคล่องสูงขึ้น โดยประเมินกำไรของกลุ่ม อยู่ที่ 4.87 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% YoY เนื่องจาก NII ที่สูงขึ้น แต่ลดลง 7% QoQ เนื่องจาก non-NII ที่ลดลงและ opex ที่สูงขึ้น โดยรวมแล้ว PPoP มีแนวโน้มเติบโต 14% YoY หนุนโดย NIM ที่เติบโตขึ้น ซึ่งชดเชยสินเชื่อที่เติบโตชะลอตัว นอกจากนี้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช้า ต้นทุนสินเชื่อที่สูงเป็นเวลานานมีแนวโน้มที่จะกดดันกำไรของธนาคารใน 2-3 ไตรมาสข้างหน้า ส่วนกำไรไตรมาสที่ 4 มีแนวโน้มลดลง QoQ เนื่องจาก opex ที่สูงขึ้น (ผลกระทบตามฤดูกาล)

BBL และ TTB มีแนวโน้มรายงานกำไรต่อหุ้นไตรมาสที่ 3 เติบโตดีที่ 38% และ 26% YoY ตามลำดับเนื่องจากการเติบโตของ NII ที่แข็งแกร่งและต้นทุนสินเชื่อที่ลดลง ขณะที่  KKP กำไรจะลดลง 34% YoY เนื่องจาก NIM ลดลงและผลขาดทุนจากการขายรถยนต์ยึดที่สูงขึ้น ส่วน SCB มีแนวโน้มที่จะรายงานกำไรที่หดตัว YoY และ QoQ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและการตั้งสำรองที่สูงขึ้น

“เราคาดว่า BBLจะมีโมเมนตัมกำไรเชิงบวกมากที่สุด เนื่องจากได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.25%  เหลือ 0.35% ในช่วงกลางเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา แต่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับปี 2566 BBL น่าจะกำไรเติบโตสูงสุดที่ 33% YoY ตามมาด้วย TTB (+29%) ส่วนแนวโน้มปี 2567 กำไรของกลุ่มธนาคารมีแนวโน้มที่จะเติบโตในอัตราที่ช้าลงที่ 8% เนื่องจากอานิสงส์จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นลดลง”บล.กรุงศรีระบุ

บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) แนะนำสะสมหุ้น KBANK ให้แนวต้านทางเทคนิค 127.00 บาทคาดว่ากลุ่มธนาคารจะตอบรับเชิงบวก จากการขึ้นดอกเบี้ยของกนง.จะส่งผล
ให้ธนาคารพาณิชย์มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นบวกต่อ  NIM  และในเดอน ต.ค. เข้าสู่เทศกาลเปิดเผยกำไร (Earnings Season )และกลุ่มธนาคารจะเป็นกลุ่มแรกที่รายงานงบ คาดกำไรไตรมาสที่ 3 เติบโต YoY นอกจากนี้มาตรการลดค่าครองชีพ ทั้งค่าน้ำมันและค่าไฟฟ้าจะส่งผลบวกให้การบริโภคภายในประเทศมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และความมั่นใจของภาคธุรกิจเป็นบวกต่อยอดสินเชื่อของกลุ่มธนาคารในช่วงทีเหลือของปี ซึ่งโดยปกติไตรมาสที่ 4 จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของความต้องการใช้สินเชื่อ
และคาดว่าจะเป็นเป้าหมายในการซื้อคืนของหากกระแสเงินทุนต่างชาติกลับตัวเข้ามา