ดาวโจนส์ปิดบวก 288 จุด เมินจ้างงานอ่อนแอ เฟดเดินหน้าลดดอกเบี้ย

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดบวก 288 จุด หุ้น Amazon กำไรดีเกินคาดการณ์หนุน เมินจ้างงานเดือนต.ค.อ่อนแอ มองเป็นสถานการณ์ชั่วคราวจากผลกระทบจากพายุเฮอริเคนและการนัดหยุดงาน คาดเฟดไม่หยุดลดดอกเบี้ย รอผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ด้านตลาดหุ้นยุโรปบวกนำโดยกลุ่มธนาคาร ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 1 พ.ย.ปิดที่ 42,052.19 จุด เพิ่มขึ้น 288.73 จุด หรือ +0.69% ฟื้นตัวจากวันก่อนหน้า จากหุ้น Amazon นำหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่ปรับขึ้นหลังรายงานผลการดำเนินที่แข็งแกร่ง และกลบข้อมูลการจ้างงานที่ลดลงอย่างมากในเดือนตุลาคม

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,728.80 จุด เพิ่มขึ้น 23.35 จุด,อ +0.41%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,239.92 จุด เพิ่มขึ้น 144.77 จุด, +0.80%

ในรอบสัปดาห์นี้ ทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.16%, ดัชนี S&P500 ลดลง 1.38% และดัชนี Nasdaq ลดลง 1.51%

หุ้น Amazon เพิ่มขึ้น 6.2% เนื่องจากความแข็งแกร่งในระบบคลาวด์และธุรกิจโฆษณาส่งผลให้ผลการดำเนินงานสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด หุ้น Intel เพิ่มขึ้น 7.8% จากผลการดำเนินงานที่สูงเกินการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และคาดการณ์แนวโน้มที่แข็งแกร่ง หุ้นทั้งสองตัวช่วยยกระดับความเชื่อมั่นของนักลงทุนหลังจากผิดหวังกับผลประกอบการที่รายงานในสัปดาห์นี้

หุ้น Apple ลดลงกว่า 1% เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับยอดขายในจีนที่ลดลงในไตรมาสล่าสุด
หุ้น Chevron เพิ่มขึ้นราว 3% หลังเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 3 ที่สูงกว่าคาด จากผลผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น

ตลาดไม่ได้ตอบสนองต่อข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอในเดือนต.ค.เพราะเชื่อว่าเป็นผลกระทบจากพายุเฮอริเคนและการนัดหยุดงาน

กระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.ว่า เพิ่มขึ้นเพียง 12,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2020 และต่ำกว่า 100,000 ตำแหน่ง ที่นักวิเคราะห์คาดอย่างมาก ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

กระทรวงแรงงานยังได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ย.เป็นเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่ง จากที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 254,000 ตำแหน่ง

คลาร์ก เบลลิน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Bellwether Wealth กล่าวว่ารายงานการจ้างงานในวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานชะลอตัวลงค่อนข้างมากในเดือนต.ค. เมื่อเทียบกับเดือนก.ย. แต่เป็นตัวเลขที่ส่วนใหญ่เป็นผลจากพายุเฮอริเคนและการนัดหยุดงานของแรงงาน ดังนั้นจึงไม่น่าเป็นไปได้ที่ข้อมูลที่อ่อนแอนี้จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ปรับเปลี่ยนทิศทางจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ที่คาดการณ์ในการประชุมเดือนพฤศจิกายน

ด้าน อเล็กซ์ มอรร์ริส ซีอีโอของ F/m investments ให้ความเห็นว่า คงเป็นเรื่องยากมากสำหรับเฟด ที่จะยุติวงจรการปรับลดดอกเบี้ย ณ จุดนี้ เฟดสามารถระงับชั่วคราว หรืออาจระงับชั่วคราวเป็นเวลานาน แต่เฟดได้ส่งสัญญาณไปยังตลาดเมื่อหกสัปดาห์ก่อนว่า คิดว่ายังมีพื้นที่มากพอที่จะเตรียมการล่วงหน้า ก็เห็นว่าเฟดต้องการจะส่งมอบสิ่งนั้นและคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดจะส่งมอบภายในหนึ่งสัปดาห์

นอกจาก การประชุมตัดสินใจนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 6-7 พ.ย.แล้วนักลงทุนยังจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 และเริ่มระมัดระวังการซื้อพันธบัตร ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน ที่ 4.361%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจอื่นที่มีการรายงาน เฟด สาขาแอตแลนตา รายงานแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.3% ในไตรมาส 4

S&P Global รายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นมาที่ 48.5 จาก 47.3 ในเดือนกันยายน แต่ยังคงต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิตสหรัฐ โดยหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงาน ดัชนีภาคการผลิตเดือนต.ค.ลดลงมาที่ 46.5 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2023 และต่ำกว่าที่ 47.6 ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7

ตลาดยุโรปปิดบวกจากการนำการปรับขึ้นของหุ้นธนาคารหลังจากลดลงก่อนหน้านี้ ขณะที่นักลงทุนย่อยข้อมูลเศรษฐกิจ ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน และจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่กำลังจะมีขึ้น

ดัชนี STOXX 600 ปิดเพิ่มขึ้น 1.1% หลังจากลดลงเกือบ 3% ในช่วงสามวันที่ผ่านมา แต่ยังปิดลบในสัปดาห์นี้

ในสัปดาห์นี้หุ้นกลุ่มธนาคารปรับขึ้นมากสุดจากผลการดำเนินงาน ขณะที่กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มลดลงมากที่สุด แต่ในวันศุกร์กลุ่มบริการทางการเงิน ธนาคาร และเทคโนโลยี เป็นกลุ่มที่นักลงทุนเข้าซื้อ

นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวังก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือดในสัปดาห์หน้า

นอกจากนี้ยังวิตกต่อความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป(ECB) หลังการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด ก่อนการตัดสินใจเชิงนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐในสัปดาห์หน้า

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 510.90 จุด เพิ่มขึ้น 5.51 จุด, +1.09%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,177.15 จุด เพิ่มขึ้น 67.05 จุด, +0.83%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,409.11 จุด เพิ่มขึ้น 58.74 จุด, +0.80
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 19,254.97 จุด เพิ่มขึ้น 177.43 จุด, +0.93%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.33% ปิดที่ 69.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.40% ปิดที่ 73.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

———————————————————————————————————————————————