ทริส จัดอันดับ ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้ง “AA” คาด 3 ปีข้างหน้า ROE อยู่ที่ 18%-20%

HoonSmart.com>>ทริสเรทติ้ง จัดอันดับเครดิตองค์กร บริษัททิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TIPH) ที่ “AA” และแนวโน้ม “Stable”สูงสุดในกลุ่มธุรกิจโฮลดิ้งส์ คาด 3 ปีข้างหน้า ROE อยู่ที่ 18%-20%

บริษัททริสเรทติ้ง ระบุว่า อันดับเครดิตดังกล่าว สะท้อนภาพธุรกิจที่แข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากสถานะทางเครดิตของบริษัทในกลุ่ม (Group Credit Profile : GCP) ซึ่งมีบริษัท ทิพยประกันภัย (TIP) เป็นบริษัทแกนหลัก โดยทริสเรทติ้งประเมินอันดับเครดิตของ GCP ที่อันดับสูงสุดของอันดับเครดิตภายในประเทศอยู่ที่ระดับ “AAA” ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งทางการเงินอันยอดเยี่ยมของกลุ่มบริษัท สะท้อนมุมมองความเชื่อมั่นของทริสเรตติ้งต่อสถานะทางการเงินและผลการดำเนินงานทั้งในปัจจุบันและอนาคตของกลุ่ม TIPH ในฐานะกลุ่มธุรกิจประกันภัยและการลงทุนชั้นนำ

การจัดอันดับเครดิตของทริสเรทติ้งมีเกณฑ์การพิจารณา 3 ด้าน ได้แก่ ด้านความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ความมั่นคงทางการเงิน และสภาพคล่องของกลุ่มบริษัท ซึ่ง TIPH ได้รับการประเมินความแข็งแกร่งในระดับดีเยี่ยม

ทั้งนี้ ได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับ TIP ในฐานะบริษัทย่อยที่ดำเนินงานหลักของ TIPH โดย TIP เป็นผู้นำด้านประกันวินาศภัยที่มีความหลากหลาย มีความระมัดระวังในการรับประกันภัย และมีการใช้ประกันภัยต่อที่มีประสิทธิภาพ

คาดว่า TIP จะยังคงสถานะในการเป็นบริษัทหลักของ TIPH Group ในอนาคตอันใกล้ โดยจะยังคงดำเนินกิจการในฐานะธุรกิจประกันภัยหลักภายใต้แผนธุรกิจ 3-5 ปี ของ TIPH ซึ่งจะดำเนินงานโดยมีหน่วยธุรกิจ 3 หน่วย ได้แก่ ธุรกิจประกันภัย (Insurance Business – IB) ธุรกิจสนับสนุนด้านประกันภัย (Insurance Support Business -ISB) และธุรกิจอื่น ๆ (TIPX) จึงสามารถสร้างกำไรจากการรับประกันภัยและปรับตัวต่อสภาวะทางธุรกิจและปัจจัยภายนอกได้เป็นอย่างดี

ณ เดือนมิถุนายน 2567 TIPH ถือหุ้น TIP ในสัดส่วน 99.05% และสินทรัพย์รวมของ TIP มีสัดส่วนมากกว่า 98% ของ TIPH ในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งสองบริษัทมีโครงสร้างคณะกรรมการและสมาชิกคณะกรรมการที่ใกล้เคียงกัน

อีกทั้ง TIP ยังมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ ผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ประกอบด้วย บริษัท ปตท. ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย ส่งผลให้ TIP สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ผ่านเครือข่ายสาขาได้อย่าง

นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังมีมุมมองเชิงบวกต่อ TIP ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ทั้งในด้านศักยภาพในการทำกำไรและความแข็งแกร่งของเงินกองทุน

TIP น่าจะสร้างผลกำไรได้อย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า โดยคาดว่า อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROE) จะอยู่ในช่วง 18%-20% และการเติบโตของบื้ยประกันภัยรับรวม ( GWP) ในปี 2567 จะอยู่ที่ 0%-3% สะท้อนถึงความต้องการของอุตสาหกรรมที่ยังคงอ่อนแอและการเติบโตที่ระมัดระวังของบริษัทก่อนที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 5% -7% ในปี 2568-2569 แหล่งรายใด้ที่สำคัญอื่น ๆ ประกอบด้วยค่าคอมมิชชั่นจากการเอาประกันภัยต่อซึ่งมีสัดส่วนประมาณหนึ่งในสามของรายได้รวม และผลตอบแทนจากการลงทุนที่ 5%-6% ต่อปี และคาดว่าอัตราส่วนรวม (Combined Ratio) จะยังคงอยู่ในระสูงในช่วง 85%-88% และอัตราสินไหม
ทดแทน (Loss Ratio) จะอยู่ที่ 65%-68% ในช่วงปี 2567-2569 จากแรงกดดันด้านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากค่าสินไหมทดแทนและละค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน อัตราความพอเพียงของเงินกองทุน (CAR) ของ TIP ที่ระดับ 230% – 250% ซึ่งสูงกว่า CAR ที่ทริสเรทติ้งยอมรับได้ที่ระดับ 200%

ดร. สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TIPH) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย กล่าวว่า TIPH ภูมิใจที่สามารถรักษาอันดับเครดิตองค์กรในระดับสูงสุดในกลุ่มธุรกิจโฮลดิ้งส์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งถือเป็นการยืนยันถึงความทุ่มเทของ
ทุกฝ่ายในบริษัทที่ช่วยกันสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน

อีกทั้งยังสะท้อนถึงการเดินหน้าพัฒนา Insurance Ecosystem ของกลุ่ม TIPH ให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน ผ่านการลงทุนในธุรกิจที่สนับสนุนการเติบโตในระยะยาว โดย TIPH มุ่งมั่นพัฒนาโอกาสในการขยายการลงทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นและสร้างความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจต่อไป

———————————————————————————————————————————————