HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐทั้ง 3 แห่งปิดติดลบ ดาวโจนส์ลดลง 91 จุด หลังผลการดำเนินงานของบริษัทผลิตชิปลดลง จับตาผลประกอบการ รอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และการประชุมตัดสินใจนโยบายการเงินของเฟด ด้านตลาดหุ้นยุโรปลดลง ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 2%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 30 ตุลาคม ปิดที่ 42,141.54 จุด ลดลง 91.51 จุด หรือ -0.22% จากการร่วงลงของหุ้นบริษัทผลิตชิป ขณะที่นักลงทุนจับตาการรายงานผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,813.67 จุด ลดลง 19.25 จุด, -0.33%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,607.93 จุด ลดลง 104.82 จุด, -0.56%
AMD มีส่วนทำให้หุ้นชิปลดลง หลังจากการคาดการณ์รายได้และยอดขายชิป AI ทำให้นักลงทุนที่มองว่าจะเติบโตมากจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของ AI ได้รับความผิดหวัง ราคาหุ้นลดลง 10.6%
หุ้น Super Micro Computer ร่วงลง 32.6% หลังจากมีรายงานข่าวว่า Ernst & Young ได้ถอนตัวจากการเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีของบริษัท ทำให้ตลาดกังวลเกี่ยวกับงบการเงินของบริษัทผลิตชิปแห่งนี้
หุ้น Nvidia ลดลง 1.4%
หุ้น Alphabet บริษัทแม่ของ Google เป็นบริษัทแรกในกลุ่ม Magnificent Seven ที่รายงานผลประกอบการรายไตรมาส ซึ่งปรากฏว่าผลการดำเนินงานแข็งแกร่งเกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์ เนื่องจากรายได้เติบโตอย่างแข็งแกร่งจากธุรกิจคลาวด์ ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเกือบ 3%
บริษัท Meta Platforms และMicrosoft มีกำหนดรายงานผลประกอบการหลังจากตลาดปิดทำการ ส่วน Apple) และ Amazonจะรายงานผลประกอบการในวันนี้ (31 ต.ค.)
ควินซี ครอสบี หัวหน้านักกลยุทธ์ระดับโลกของ LPL Financial กล่าวว่า ตลาดกำลังให้ความสนใจอย่างมากกับสิ่งที่บริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้จะรายงาน รวมไปถึงคาดการณ์ และสัญญาณที่อาจจะมีผลต่อการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ AI ได้
แซม สโตวาล หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของ CFRA Research กล่าวว่า ดูเหมือนว่าผลการดำเนินงานของกลุ่มเทคโนโลยียังคงทำให้นักลงทุนที่ overweight กลุ่มนี้มีความเชื่อมั่น
แม้ว่าจนถึงขณะนี้บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจะรายงานผลการดำเนินงานที่สดใส แต่ ทิม ชับบ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Girard มองว่า ฤดูกาลผลประกอบการโดยรวมนี้ค่อนข้างกร่อย และคิดว่าราคาหุ้นกำลังแพง
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ให้ภาพที่ผสมปนเปกัน โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานเประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสสามของปีครั้งที่ 1 ขยายตัว 2.8% ต่ำกว่า 3.0% ที่นักวิเคราะห์คาด หลังจากขยายตัว 3.0% ในไตรมาส 2 และ 1.4% ในไตรมาส 1
อโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) รายงาน การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 233,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี และสูงกว่า 113,000 ตำแหน่ง ที่นักวิเคราะห์คาด
นักลงทุนยังจับตาการรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนกันยายน และการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนตุลาคม
รวมไปถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พฤศจิกายน และการประชุมตัดสินใจนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในวันที่ 7 พฤศจิกายน ซึ่งความไม่แน่นอนที่เพิ่มสูงขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจทำให้ตลาดปรับขึ้นไม่ได้ โดยแมทท์ สตักกี้ ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอของ Northwestern Mutual มองว่า ตลาดจะเงียบลงมากขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2016
ด้านตลาดยุโรปปิดลบโดยดัชนีหุ้นหลักของยุโรปร่วงลง 1% สู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน จากการนำปรับตัวลงของหุ้นเทคโนโลยีและเหมืองแร่ หลังผลประกอบการของบริษัทที่น่าผิดหวังและข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญบางส่วน
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงบริษัทผลิตชิป ลดลงมากกว่า 2% โดยนักวิเคราะห์ชี้ไปที่สังเกตเห็นผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาดการณ์ของ Melexis ซัพพลายเออร์เซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดของเบลเยียม และบริษัทชิปสหรัฐ Qorvo และ AMD
หุ้น Capgemini กลุ่มที่ปรึกษาด้านไอทีของฝรั่งเศส ลดลง 6% หลังจากปรับลดการคาดการณ์รายรับในปี 2024 เป็นครั้งที่สองในปีนี้
หุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานลดลงหลังปรับขึ้น 3 วันติดต่อกัน โดยหุ้นAnglo American ลดลง 4% หลังประธานบริษัท BHP ระบุว่า บริษัท ได้ล้มเลิกการซื้อกิจการ Anglo American แล้ว
หุ้นกลุ่มบริการด้านการเงินลดลง 2% โดยหุ้น UBS Group ร่วง 4.5%
เศรษฐกิจยูโรโซนเติบโตเร็วกว่าที่คาดไว้ในไตรมาสก่อน แต่แนวโน้มยังคงอ่อนแอจากความเสี่ยงที่จะมีการเก็บภาษีศุลกากรที่มากเกินไปทรัมป์ซึ่งมีโอกาสเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ทำให้เกิดความตึงเครียดทางการค้ากับจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น และทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง
แต่ข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ของเยอรมนีแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้อย่างผิดคาด แต่เงินเฟ้อกลับเพิ่มขึ้นเกินคาดไว้ในเดือนตุลาคม
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 511.51 จุด ลดลง 6.48 จุด, -1.25%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,159.63 จุด ลดลง 59.98 จุด, -0.73%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,428.36 จุด ลดลง 82.75 จุด, -1.10%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 19,257.34 จุด ลดลง 220.73 จุด, -1.13%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์ หรือ 2.08% ปิดที่ 68.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.43 ดอลลาร์ หรือ 2.01% ปิดที่ 72.55ดอลลาร์ต่อบาร์เรล