“FSS” คาดเงินทุนยังไหลออก แนะ BH ราคาเป้าหมาย 300 บาท

HoonSmart.com>>ฟินันเซีย ไซรัส (FSS)เผย Dollar Index ขยับขึ้นกดดันค่าเงินบาทอ่อนค่าลงและกดดันให้กระแสเงินทุนไหลออก คาดกลุ่ม พลังงานต้น-กลางน้ำ สื่อสารฯ การแพทย์ ธนาคาร จากแนวโน้มกำไรไตรมาส 3 ปี 2566 แกว่งตัวได้แข็งกว่าตลาดในระยะสั้น แนะ“ซื้อ” BH ราคาเป้าหมาย 300 บาท

บริษัท ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) คาด SET Index จะแกว่งตัว Sideways to Sideways Down โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1,490-1,500 จุด ปัจจัยกดดันยังคงมาจาก Bond Yield ทั่วโลกที่ยังคงขยับขึ้นและทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงยังเผชิญแรงขาย ส่วน Dollar Index ที่ยังขยับขึ้นกดดันค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลงและยังกดดันให้กระแสเงินทุนไหลออก ปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้คือตัวเลขส่งออกไทยเดือน ส.ค. ตลาดคาด -5% y-y (เดือน ก.ค. -6.2% y-y) และคาดว่าจะยังเห็นการขาดดุลการค้าราว 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

ขณะที่การประชุมครม.ให้ติดตามความชัดเจนและรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการพักหนี้และเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ส่วนพรุ่งนี้รอดูผลการประชุมกนง.ซึ่งเสียงค่อนข้างแตกว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% จากปัจจุบันที่ 2.25% หรือไม่

กลุ่มที่คาดว่าจะยังแกว่งตัวได้แข็งกว่าตลาดในระยะสั้น ได้แก่ พลังงานต้น-กลางน้ำ สื่อสารฯ การแพทย์ ธนาคาร จากแนวโน้มกำไรไตรมาส 3 ปี 2566 ที่โดดเด่น ส่วนกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคที่มีโอกาสฟื้นตัวได้ระยะถัดไปจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะทยอยออกมาในไตรมาส 4 ปี 2566-2567

หุ้นเด่นเดือน ก.ย. : AOT, CPALL, CPN, NSL, TIDLOR

หุ้นเด่นวันนี้ : BH แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 300 บาท คาดกำไรไตรมาส 3 ปี 2566 ลุ้นทำ New High หนุนจากการเติบโตของผู้ป่วยต่างชาติที่เร่งขึ้น ขณะที่ผู้ป่วยไทยได้อานิสงส์จากโรคระบาด เบื้องต้นคาดรายได้จะโตแรง 20-40% y-y คาดกำไรปี 2566 ที่ 6.8 พันลบ. +37% y-y และเติบโตได้ต่อเนื่องในปี 2567 ที่ 7.1 พันลบ. +5% y-y ค่าเงินบาทอ่อนเป็น Sentiment บวกจากการดึงดูดผู้ป่วยต่างชาติ แนวรับ 260//255-252 บาท แนวต้าน 267-270 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลออกจากภูมิภาคต่อเนื่องแต่บางลงเหลือ 409 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เม็ดเงินไหลออกสูงสุดที่เกาหลีใต้ 187 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามด้วยไต้หวัน 96 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนอาเซียนเม็ดเงินไหลออกนำโดยอินโดนีเซียและไทยประเทศละ 74-77 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีเพียงเวียดนามที่ไหลเข้า 29 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลจากทั้ง Bond Yield ที่ยังสูง รวมถึงกังวลสถานการณ์ภาคอสังหาฯของจีน

ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) กลุ่มโรงไฟฟ้า จากมติที่ประชุมครม.ที่อนุมัติการปรับลดราคาค่าไฟฟ้าในช่วงเดือน ก.ย. – ธ.ค. 2566 เพิ่มเป็น 3.99 บาท/kWh ซึ่งหมายถึงค่า Ft ที่ 0.21 บาท/kWh ลดลงจากค่า Ft ที่ประกาศอย่างเป็นทางการครั้งล่าสุดที่ 0.6686 บาท/kWh ในเดือน ก.ค. 2566 ทำให้ปรับสมมติฐานราคาค่าก๊าซและ Ft ใหม่ โดยคาดราคาก๊าซปี 2566-2568 จะอยู่ที่ 405/370/330 บาท/mmbtu (เทียบกับ 439/390/370 บาท/mmbtu ก่อนหน้า) และคาดว่าค่า Ft ปี 2566-2568 จะอยู่ที่ 0.89/0.21/0.10 บาท/kWh (เทียบกับ 0.89/0.79/0.69 บาท/kWh ก่อนหน้า) และเชื่อว่าค่า Ft ในเดือน ก.ย. – ธ.ค. 2566 จะไม่เปลี่ยนแปลงอีกจนกว่าสิ้นปี 2567 GULF เป็นหุ้น Top BUY ของกลุ่มไฟฟ้า ส่วน BGRIM และ GPSC ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้า SPP คาดกำไรจะเข้าสู่ปกติในปี 2568

(0) GULF แม้ค่า Ft งวดเดือน ก.ย. – ธ.ค. 2566 จะลดลง แต่คาดกำไรครึ่งปีแรก 2566 +43% h-h จากโรงไฟฟ้า GPD (IPP, 662MW) เริ่มจ่ายไฟระยะที่ 2 ในเดือน ต.ค. นี้ และส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากฤดูกาลที่ดีของโรงไฟฟ้าพลังลมและ PTT NGD ที่มีต้นทุนก๊าซลดลง อย่างไรก็ดีเราปรับลดประมาณการกำไรปี 2567-2568 ลง 5% หลังปรับใช้สมมติฐานค่าไฟใหม่ เชื่อว่า GULF เป็นหุ้นโรงไฟฟ้าที่มีความยืดหยุ่นสูงจากพอร์ตที่มีการกระจายความเสี่ยง รายได้กว่า 70% มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับกฟผ. เราปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 54 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(0) GPSC แม้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2566-2568 ลง 13%/15%/11% เพื่อสะท้อนสมมติฐานราคาก๊าซและค่า Ft ใหม่ แต่ยังคาดกำไรปี 2566-2568 โต 39%/28%/39% ตามลำดับ จากราคาเชื้อเพลิงที่ลดลง ส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นจาก AEPL โรงไฟฟ้าพลังลมในไต้หวัน CFXD กำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบใน 1Q24 และประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าที่ดีขึ้นจาก Glow SPP ระยะที่ 5 และโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่าง GHECO-One ให้ราคาเป้าหมายปี 2567 ใหม่ 59 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(0) BGRIM เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2566-2568 ลง 14%/27%/3% เพื่อสะท้อนสมมติฐานค่า Ft และราคาก๊าซใหม่ แต่เชื่อว่ากำไรของโรงไฟฟ้า SPP จะเริ่มกลับเป็นปกติตั้งแต่ปี 2568 จากแรงกดดันจากการแทรกแซงค่า Ft ของรัฐบาลที่น่าจะลดลงหลังราคาก๊าซกลับสู่ระดับปกติ และจากมูลหนี้มีดอกเบี้ยจำนวนมากที่ กฟผ. กำลังรับภาระอยู่และคณะกรรมการกิจการพลังงานน่าจะมีความยืดหยุ่นเพิ่มในการเพิ่มค่า AF (Accumulate factor) เพื่อคืนเงินให้แก่ กฟผ. ซึ่งเราคิดว่าปัจจัยดังกล่าวจะช่วยจำกัด Downside ของค่า Ft เราปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 37 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(+) SAV… เทรดวันแรก SAV ถือหุ้น 100% ใน Cambodia Air Traffic Services ซึ่งเป็นผู้ให้บริการวิทยุการบินแต่เพียงผู้เดียวในน่านฟ้าของกัมพูชา พร้อมสัญญาสัมปทานตั้งแต่ปี 2545-2594 คาดกำไรปกติปี 2566-2567 +59% y-y และ +82% y-y ตามลำดับ จากการฟื้นตัวในเกณฑ์ดีของตัวนักท่องเที่ยวขาเข้าสำหรับทั้งกัมพูชาและเวียดนาม อัตรากำไรที่ปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากมากกว่าครึ่งของค่าใช้จ่ายเป็นต้นทุนคงที่ และภาระดอกเบี้ยที่ลดลงหลังนำเงิน IPO จ่ายคืนหนี้ ให้ราคาเหมาะสมปี 2567 ที่ 26 บาท (Finansia เป็นผู้จัดจำหน่ายฯ)