“FSS” คาดมาตรการพักหนี้ชัด ส่งผลบวกกลุ่มบริโภค/ไฟแนนซ์

HoonSmart.com>>ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) คาดการประชุมครม.สัปดาห์นี้จะมีความขัดเจนเกี่ยวกับมาตรการพักหนี้เป็นบวกต่อกลุ่มการบริโภคและไฟแนนซ์ แนะซื้อ BBL ราคาเป้าหมาย 197 บาท คาดกำไรไตรมาส 3 ปี 2566 เติบโตแกร่ง y-y

บล.ฟินันเซีย ไซรัส (FSS)รายงานว่า ปัจจัยในประเทศสัปดาห์นี้คาดมีประเด็นบวกรออยู่ โดยการประชุมครม.สัปดาห์นี้คาดมีความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการพักหนี้(เป็นบวกต่อกลุ่มการบริโภคและไฟแนนซ์) รวมถึงที่มาของแหล่งเงินทุนสำหรับนโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างความชัดเจนและคลายกังวลแก่ตลาดได้บ้าง

ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามคือการประชุมกนง.วันพุธซึ่งเสียงค่อนข้างแตกว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งจากปัจจุบันที่ 2.25% หรือไม่ ขณะที่ตัวเลขส่งออกเดือน ส.ค. 2566 จะประกาศสัปดาห์นี้ คาดติดลบน้อยลงจากเดือนก่อนกลุ่มที่คาดว่าจะยังแกว่งตัวได้แข็งกว่าตลาดในระยสั้น ได้แก่ พลังงานต้น-กลางน้ำธนาคาร สื่อสารฯ การแพทย์ จากแนวโน้มกำไรไตรมาส 3 ปี 2566 ที่โดดเด่น

ส่วนกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคที่มีโอกาสฟื้นตัวได้ระยะถัดไปจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะทยอยออกมาในไตรมาส 4 ปี 2566 -2567 ทั้งการลดค่าครองชีพและการแจกเงินดิจิทัล

กลยุทธ์ : เลือกหุ้นที่มีโมเมนตัมกำไรไตรมาส 3 ปี 2566 แข็งแกร่ง//ถือลงทุนต่อเนื่องหลังสะสมบริเวณ 1,500+- จุดไปแล้วในช่วงก่อนหน้า
หุ้นเด่นเดือน ก.ย. : AOT, CPALL, CPN, NSL, TIDLOR

หุ้นเด่นวันนี้ : BBL แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 197 บาท คาดกำไรไตรมาส 3 ปี 2566 เติบโตแกร่ง y-y จากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM)ที่ยังอยู่ในระดับสูงอย่างมีเสถียรภาพ และสินเชื่อที่คาดเร่งตัวขึ้น ขณะที่คุณภาพหนี้ดูแข็งแรงที่สุดในกลุ่ม

นอกจากนี้คาดว่ายังได้แรงหนุนจากการเติบโตของธุรกิจในต่างประเทศระยะยาว คาดกำไรปี 2566-2567 +29% y-y และ +8% y-y
หากกนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องในการประชุมสัปดาห์นี้จะเป็นอีกหนึ่ง Sentiment บวก แนวรับ 165-164 บาท แนวต้าน 170//175 บาท

ด้าน Fund Flow : เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนยังคงไหลออกจากภูมิภาคอีก 608 ล้านเหรียญสหรัฐ ยังคงนำโดยไต้หวัน 485 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามด้วยเกาหลีใต้ 98 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนอาเซียนเม็ดเงินไหลออกนำโดยไทย 36 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ไหลเข้าอินโดนีเซีย 20 ล้านเหรียญสหรัฐ แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลออกแต่บางลงตลาดยังคงให้น้ำหนักกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่สูงยาวนานกว่าคาด

ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) กลุ่มธนาคาร ยอดสินเชื่อสุทธิเดือน ส.ค. 2566 ที่ 10.84 ล้านล้านบาท +0.78% m-m แต่ -0.74% y-y และ +0.24% YTD ธนาคารส่วนมากรายงานการเติบโตของสินเชื่อเป็นบวกในเดือน ส.ค. ยกเว้น KBANK คาดกำไรก่อนสำรอง (PPOP) ไตรมาส 3 ปี 2566 โตดีต่อเนื่อง  จาก NIM ที่จะปรับขึ้น

ขณะที่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่กำลังจะเกิดขึ้นน่าจะช่วยหนุน NIM อย่างต่อเนื่องในไตรมาส 4 ปี 2566 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฤดูสินเชื่อกำลังจะมาถึง โดยเฉพาะ BBL คาด PPOP ไตรมาส 3 ปี 2566 แข็งแกร่ง จาก NIM ที่ปรับขึ้นหลังปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก เมื่อสิ้น 2Q23

อย่างไรก็ตามด้านคุณภาพสินทรัพย์ของกลุ่มธนาคารที่ตกต่ำจะขัดขวางการเพิ่มระดับการประเมินมูลค่าในระยะสั้น คงให้น้ำหนักการลงทุนเท่ากับตลาด แนะTop picks หุ้น BBL และ KTB

(0) ยอดขายรถยนต์เดือนส.ค. 2566  สภาอุตฯ (ส.อ.ท.) เผยยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือน ส.ค. อยู่ที่ 60,234 คัน -3.6% m-m, -11.7% y-y จากยอดขายรถกระบะที่ลดลงถึง -36.3% และสถาบันการเงินยังคงเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ
ขณะที่ยอดขายรถไฟฟ้า (BEV) ปรับขึ้นอย่างมาก ภาพรวมช่วง 8 เดือนของปี 2023 มียอดขายรวม 524,784 คัน -6.2% y-y ส่วนส่งออกรถยนต์เดือน ส.ค. 2566 อยู่ที่ 88,661 คัน +19.4% y-y

ภาพรวมยอดส่งออก 8 เดือนปี 2566 อยู่ที่ 705,868 คัน +19.5% y-y และคิดเป็น 57.8% ของยอดการผลิตทั้งหมด 1.22 ล้านคัน อย่างไรก็ตาม ส.อ.ท.ยังคาดยอดผลิตรถยนต์ทั้งปีที่ 1.9 ล้านคัน มีมุมมองเป็นกลางต่อกลุ่มยานยนต์

(+) ADVANC ศาลปกครองกลางพิพากษายกคำร้องของ TOTเรียกค่าเสียหายกรณีการโอนย้ายผู้ใช้บริการปี 2557 TOT ได้ยื่นต่ออนุญาโตตุลาการให้ ADVANC ชำระค่าเสียหาย 32,813 ลบ. ที่ผิดสัญญาโดยโอนย้ายผู้ใช้บริการระบบ 900MHz ไปใช้ระบบ 3G 2100MHz โดยวิธีกด “988” ศาลปกครองกลางตัดสินยกคำร้อง ADVANC ไม่ต้องจ่าย 3.2 หมื่นกว่าลบ. ทั้งนี้ NT (เดิม TOT) มีสิทธิ์อุทธรณ์ภายใน 30
วัน เป็นบวกกับ ADVANC