FSSมองบอนด์ ยีลด์ กด SET Index แนะ TU คาดกำไร 3Q23 +27%

HoonSmart.com>>ฟินันเซีย ไซรัส(FSS)มองบอนด์ ยีลด์ ยังกดดันตลาดหุ้นไทยวันนี้ ทำ SET Index แกว่งตัวกรอบ 1,505-1,520 จุด แนะ “ซื้อ” TU คาดกำไรสุทธิ 3Q23 ที่ 1.3 พันลบ. +27% q-q

บริษัทฟินันเซีย ไซรัส(FSS)คาด SET Index จะแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,505-1,520 จุด โดยคาดการฟื้นตัวคาดว่ายังจำกัดและยังคงถูกกดดันจากปัจจัยต่างประเทศโดยเฉพาะ Bond Yield ที่ยังอยู่ในระดับสูงจากแนวโน้มดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มยืนสูงยาวนานกว่าคาด วานนี้ BoE คงดอกเบี้ย Surprise ตลาดแต่เสียงค่อนข้างแตกและยังไม่ปิดโอกาสปรับขึ้นในอนาคตหากเงินเฟ้อยังลงช้า ส่วน BoJ วันนี้คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ -0.1% เช่นเดิม

ส่วนปัจจัยในประเทศโฟกัสอยู่ที่สัปดาห์หน้าซึ่งต้องติดตามว่ากนง.จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งจากปัจจุบันที่ 2.25% หรือไม่ รวมถึงตัวเลขส่งออกเดือน ส.ค. 23 ว่าจะติดลบน้อยลงตามที่ประเมินหรือไม่เรายังคงคาดหวังเชิงบวกต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของครม.ที่จะทยอยออกมาในระยะถัดไป กลุ่มที่คาดว่าจะยังแกว่งตัวได้แข็งกว่าตลาด ได้แก่ ธนาคาร สื่อสารฯ การแพทย์จากแนวโน้มกำไร 3Q23 ที่โดดเด่น

ส่วนระยะยาวยังมองบวกต่อกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคที่มีโอกาสฟื้นตัวในระยะถัดไปจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะทยอยออกมาใน 4Q23-2024 ทั้งการลดค่าครองชีพและการแจกเงินดิจิทัล

กลยุทธ์ : เลือกหุ้นที่มีโมเมนตัมกำไร 3Q23 แข็งแกร่ง//ถือลงทุนต่อเนื่องหลังสะสมบริเวณ 1,500+- จุดไปแล้ว
หุ้นเด่นเดือน ก.ย. : AOT, CPALL, CPN, NSL, TIDLOR

หุ้นเด่นวันนี้ : TU แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 18 บาท คาดกำไรสุทธิ 3Q23 ที่ 1.3 พันลบ. +27% q-q, -49% y-y ขณะที่คาดกำไรปกติ +2% q-q ไม่น่าตื่นเต้น เหตุผลสำคัญอยู่ที่ส่วนแบ่งของ Red Lobster ที่น่าจะพลิกเป็นขาดทุนมากขึ้น อย่างไรก็ดีเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อกำไรของ TU ที่ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 1Q23 แนวโน้มกำไร 4Q23 คาดเติบโตต่อเนื่องทั้ง q-q, y-y สวนปัจจัยด้านฤดูกาล
ลูกค้าในธุรกิจ Ambient และอาหารสัตว์เลี้ยงเริ่มกลับมา Restocking สินค้าอีกครั้งในช่วง 2H23 นอกจากนี้คาด Margin 4Q23 จะดีขึ้น q-q จากราคาปลาทูน่าที่ลดลง เบื้องต้นเราเห็น Upside 10-15% ต่อประมาณการกำไรปกติปี 2023 ที่ 4.1 พันลบ. –38% y-y ส่วนปี 2024 ยังคาดที่ 5.2 พันลบ. +28% y-y แนวรับ 14 บาท แนวต้าน 14.60//15 บาท

Fund Flow :วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลออกจากภูมิภาคต่อเนื่องและหนาแน่นขึ้นเป็น US$1,281 ล้าน โดยกระจุกตัวที่ไต้หวัน US$1,137 ล้าน ตามด้วยเกาหลีใต้ US$126 ล้าน ส่วนอาเซียนส่วนใหญ่ยังค่อนไปในทางไหลออก แต่ประมาณบางเพียงประเทศละ US$9-
15 ล้าน ส่วนไทยเป็นประเทศเดียวที่ไหลเข้า US$18 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังอยู่ในทิศทางไหลออกจาก Bond Yield
ที่ยังปรับขึ้นหลังทิศทางดอกเบี้ยมีแนวโน้มสูงยาวนานกว่าคาด

ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) BoE คงดอกเบี้ยครั้งแรก แต่ยังส่งสัญญาณ Hawkish โดยประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ 5.25% (ตลาดคาด 5.50%) เป็นครั้งแรกหลังปรับขึ้น 14 ครั้งติดต่อกัน อย่างไรก็ตามผลโหวตไม่เป็นเอกฉัน โดยมีคณะกรรมการ 5 ท่าน หนุนการตึงดอกเบี้ย ขณะที่เหลืออีก 4 ท่าน หนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ย บ่งชี้ BoE ยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวดต่อไปจนกว่าเงินเฟ้อจะปรับลงตามเป้าคลายกับการส่งสัญญาณของเฟดที่ประชุมก่อนหน้านี้
ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าอัตราดอกเบี้ยมีโอกาสที่จะอยู่ในระดับสูงนานกว่าคาดซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันสินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้นนี้

(+) IRC คาดกำไรปกติ 4QFY23 ที่ 42 ลบ. +43% q-q, +33% y-y จากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้นและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับพลังงานที่ลดลงน่าจะช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 9.3% จาก 8.9% ใน 3QFY23 และ 6.8% ใน 4QFY22 ขณะที่คาดรายได้เติบโต 17% q-q จากฤดูที่ซบเซาในไตรมาสสที่แล้ว แต่ลดลง -3% y-y จากความต้องการในประเทศที่ตกต่ำ อย่างไรก็ตามเราปรับลดประมาณการกำไรปกติปีFY23-FY25 ลง 8%/13%/15% เพื่อสะท้อนมุมมองที่ระมัดระวังมากยิ่งขึ้นของเราต่อแนวโน้มการขายในประเทศและรายได้เงินปันผลจากบริษัทย่อยในเวียดนามหายไป เนื่องจากบริษัทย่อยกำลังเข้าสู่ระยะการลงทุนใหม่ กำไรปกติน่าจะโตในอัตราที่ลดลงเหลือ 17% ในปี FY24 และ 23% ในปี FY25 จาก 23% และ 26% ในประมาณการก่อนหน้า เราปรับใช้ราคาเป้าหมายเป็นปี 2024 ที่ 15
บาท และเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ”